บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

อนาคตของการทำ SEO คือการใส่ใจคนมากกว่าเทคโนโลยี

TL_Criclabs_Toon_01 (Hero Banner)

ภูวิทย์ (ตูน) ลิมวิภูวัฒน์ เขาคือผู้ร่วมก่อตั้ง Criclabs ดิจิทัลเอเจนซีสัญชาติไทยที่เชี่ยวชาญเรื่องดิจิทัลโปรดักต์, SEO, และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นอดีตนักข่าว และผู้จัดการ SEO (APAC-MEA) ของ Electrolux ผู้ซึ่งเคยร่วมงานกับ Morphosis ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่ง Seven Peaks โดยเขาได้บรรยายเรื่องที่น่าสนใจในหัวข้อ “ทำงานกับ SEO และการเรียนรู้ข้ามแผนกจากทีมโปรดักต์ ทีมเซลส์ และทีมการตลาด” ที่งาน BKK Web และสร้างแรงบันดาลให้กับหลายคนที่สนใจในการทำ SEO ซึ่งเขาได้แชร์มุมมองที่น่าสนใจในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่มีต่อเทคโนโลยีต่างๆ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้

จุดเริ่มต้นในฐานะคนทำ SEO ของผม เริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนกับ Morphosis หลังจากที่ผมตัดสินใจออกจากการเป็นนักข่าว โดยผมได้เรียนรู้เรื่องราว มากมายระหว่างการทำงานในโปรเจกต์ต่างๆ ที่มีตั้งแต่การทำ SEO การออกแบบ UX/UI สำหรับเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีหลายภาคส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ประสบการณ์ทั้งหมดนี้ได้มอบมุมมองใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผมสามารถพัฒนาตัวเองในเส้นทางการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ได้อย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ไม่นานหลังจากนั้นผมได้รับโอกาสในการเข้าไปบริหารและจัดการเรื่องการทำ SEO ให้กับ Electrolux หนึ่งในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังระดับโลก ซึ่งผมได้ดูแลเว็บไซต์ราว 40 เว็บไซต์จากกว่า 30 ประเทศ ในภูมิภาค APAC (เอเชียแปซิฟิก) และ MEA (ตะวันออกกลางและแอฟริกา) การทำงานที่นี่ได้มอบสิ่งล้ำค่ามากมายให้กับผม อาจกล่าวได้ว่าที่นี่คือจุดที่ผลักดันให้ผมกล้าที่จะก้าวไปสู่การก่อตั้งดิจิทัลเอเจนซีของตัวเองที่มีชื่อว่า Criclabs ที่ผมได้ปลุกปั้นและเติบโตไปพร้อมกับทีมของผมอยู่ในตอนนี้

 

กระบวนการทางความคิดคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

สมัยที่ผมทำงานเป็นนักข่าวนั้นอยู่ในช่วงที่แวดวงสื่อกำลังถูก SEO เข้ามา distrub หนักมาก จากเดิมที่เคยเขียนเพื่อพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับแล้วส่งไปยังผู้อ่าน แต่ต้องเปลี่ยนมาเป็นการเขียนข่าวสารต่างๆ บนเว็บไซต์เพื่อให้ผู้อ่านค้นหาข่าวที่พวกเขาต้องการผ่านทาง search engine อย่าง Google แต่จุดที่ทำให้ผมตระหนักว่า SEO ไม่ใช่แค่ buzzword มาจากการที่ตอนนั้นสำนักข่าวของผมได้เปลี่ยนโดเมนของเว็บไซต์ ส่งผลให้ยอดเข้าการชมหายไปถึง 70% เพียงชั่วข้ามคืน

นั่นคือจุดที่ทำให้ผมตั้งคำถามว่าทำไมการเปลี่ยนโดเมนถึงทำให้ทุกอย่างแย่ลงทั้งๆ ที่ทุกอย่างภายในเว็บไซต์ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ผมจึงอยากรู้ต่อไปอีกว่า แล้วมีปัจจัยหรือสิ่งใดบ้างที่อยู่เบื้องหลังการทำ SEO อะไรเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงนอกเหนือจากการเขียนข่าวหรือบทความให้ดีที่สุด

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมได้เริ่มศึกษาในเรื่องการทำ SEO ด้วยตัวเองอย่างจริงจัง พร้อมกับหางานที่จะได้ลองใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาจริงๆ โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมก้าวมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ มาจากการที่ผมเชื่อมั่นใน process หรือกระบวนการในการทำงานอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การวางแผนเส้นทางอาชีพ การทำงาน และการทำแคมเปญ SEO ให้กับลูกค้า อย่างนี้เป็นต้น

เหตุผลที่ผมให้ความสำคัญกับกระบวนการต่างๆ มากก็เพราะ เวลาเราใช้ชีวิตหรือทำ SEO มักจะมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากเรามี process ที่ดี ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่าจากจุดเริ่มต้นไปจนถึงเป้าหมายมีอะไรบ้างที่จะต้องทำ พร้อมกำหนดกลไกและรายละเอียดที่ชัดเจนในการพาเราไปอยู่ในจุดนั้นได้อย่างไร นั่นทำให้ผมมั่นใจว่าจะพาตัวเองไปสู่ยังเส้นชัยที่ตั้งเป้าเอาไว้ได้ในสักวันหนึ่ง

“ผมเชื่อว่าแทนที่เราจะไล่ตามหาความสุข แต่ผมกลับมีความสุขที่ได้ไล่ตามเป้าหมายในชีวิต”
ภูวิทย์ ลิมวิภูวัฒน์

ผู้ร่วมก่อตั้ง Criclabs

TL_Criclabs_Toon_03


ภาพรวมของ SEO ในปัจจุบัน

ตอนนี้คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับ SEO เพราะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนในเรื่องของการ search ที่เกี่ยวข้องกับ AI เยอะมาก ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ ก็คงเป็น SGE (Search Generative Experience) หรือจะเรียกว่า Generative AI ที่ Google พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาผลลัพธ์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น และเป็นหนึ่งในสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้ที่มีต่อการใช้งาน search engine เป็นอย่างมาก

ทันทีที่คุณพิมพ์สิ่งที่อยากรู้ใน SGE และกด enter ทันใดนั้นระบบ AI ของ Google จะสร้างคำตอบที่คาดว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นสิ่งที่ผู้ใช้กำลังค้นหาอยู่ออกมาเป็นผลลัพธ์ แทนที่จะลิสต์รายการเว็บไซต์เหมือนตอนที่เราค้นหาด้วย search engine แบบปกติ แต่กลับแนบลิงก์อ้างอิงที่ AI ได้นำข้อมูลมาแสดงไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีการสร้างคอนเทนต์ด้วย AI ตั้งแต่งานเขียน, รูปภาพ, และวิดีโอ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนเกมของการทำ SEO อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม AI ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้การทำ SEO เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมุมมองของ Google ที่มีต่อ AI อีกด้วย กล่าวคือมันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา เช่น ในเรื่องของการค้นหาอะไรก็ตาม Google เองไม่ได้มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าจะสนับสนุน AI ในเรื่องต่างๆ หรือไม่ ผมยกตัวอย่างการอัปเดตทั้งสามครั้งให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น

  • ครั้งที่ 1 Google ออกมาบอกว่าจะไม่สนับสนุนคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นโดย AI
  • ครั้งที่ 2 Google ประกาศหลังจากการอัปเดตครั้งแรกเพียง 1 สัปดาห์ ว่าพวกเขาจะไม่พิจารณาการนำคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI เฉพาะที่ไม่มีคุณภาพขึ้นสู่หน้าผลลัพธ์การค้นหา
  • ครั้งที่ 3 Google อัปเดตครั้งใหญ่ด้วยการระบุว่า จะไม่ลิสต์คอนเทนต์ใดๆ ก็ตามที่สร้างขึ้นมาด้วย AI เป็นจำนวนมาก หรือคอนเทนต์ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาแต่กลับมีคุณภาพต่ำ

ดังนั้น หลายบริษัทที่ปรับตัวและปรับใช้ AI เร็วมากๆ โดยไม่ได้ระมัดระวังในการนำใช้ ต่างได้รับความเสี่ยงที่จะสูญเสียคะแนนต่างๆ ในด้าน SEO ไปกับการอัปเดตอัลกอริทึมของ Google นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างว่าทำไมเกมการทำ SEO จึงมีความน่าสนใจ เนื่องจาก search engine มีการอัปเดตสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งยังส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งเหล่านี้

แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีมากมายที่เข้ามาทำให้ภาพรวมของการทำ SEO เปลี่ยนไปอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง แต่ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่าถ้ากระบวนการในการทำ SEO ของเราแข็งแกร่ง สิ่งที่เราต้องปรับจะไม่ได้มีเยอะมาก แม้ว่าเครื่องมือจะเปลี่ยนไป มีอะไรใหม่ๆ ให้ได้ใช้มากมาย แต่พื้นฐานของการทำ SEO ก็ยังคงเหมือนเดิม

 

เทคโนโลยีใหม่ แต่หัวใจเดิม

คุณอาจเคยได้ยินชื่อของ Perplexity ที่คนในแวดวงกล่าวขวัญกันว่านี่คือคู่แข่งที่น่ากลัวของ Google ในฐานะของคนทำ SEO ผมมองว่าสิ่งแรกที่เราต้องพิจารณาก็คือกลุ่มผู้ใช้หลักของเราเป็นใคร ชอบใช้แพลตฟอร์มไหนมากที่สุด และเราก็เริ่มปรับตัวไปตามผู้ใช้ ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องมือสุดล้ำเปิดตัวอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ใช้ว่ากฎของเกมการทำ SEO จะเปลี่ยนไป 

ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่เทรนด์รักษ์โลกกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ก็มี search engine ที่บอกว่าตัวเองเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับประกาศว่าจะขึ้นมาท้าชิงตำแหน่งผู้นำจาก Google ซึ่งกำลังมาแรงมากในขณะนั้น หลายคนในวงการ SEO ได้ตั้งคำถามว่า พวกเราจะต้องปรับแต่งคอนเทนต์รวมถึงสิ่งต่างๆ ภายในเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ search engine ตัวนี้หรือเปล่า 

หรือแม้แต่ตอนที่เทรนด์เรื่องความเป็นส่วนตัวกำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง จนทำให้ DuckDuckGo ก้าวขึ้นมาเป็น search engine ที่ชูเรื่องการไม่ติดตามหรือจัดเก็บข้อมูลเมื่อผู้ใช้ค้นหาและใช้งานแพลตฟอร์มของพวกเขา แต่เมื่อเจาะลึกลงไปแล้วจะเห็นว่ากระบวนการทำงานของ Google และ DuckDuckGo ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไร

อย่างไรก็ดี จะมีข้อยกเว้นอยู่เพียง 2 ตลาดเท่านั้น ได้แก่ จีนและเกาหลีใต้ ที่ทั้งสองประเทศนี้มี search engine ประจำชาติอย่าง Baidu และ Naver โดยอัลกอริทึมในสองแพลตฟอร์มนี้จะมีความแตกต่างกับ Google อยู่ในหลายเรื่อง ซึ่งผมจะไม่ขอลงรายละเอียดมากนัก

ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องทำความเข้าใจคือ Perplexity มีหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกข้อมูลเพื่อนำมาประมวลผลและสร้างเป็นผลลัพธ์ที่ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้กำลังมองหาได้อย่างไร ส่วนตัวแล้วผมคาดเดาว่า Perplexity มีกระบวนการปรับคอนเทนต์พร้อมนำแหล่งอ้างอิงที่เหมาะสมมาแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็น ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากการตามหาคอนเทนต์ที่เหมาะสมเพื่อนำมาแสดงเป็น Feature Snippet ในผลลัพธ์การค้นหาอันดับแรกสุดของ Google แต่อย่างใด

ผมคิดว่าการมาของ Perplexity จะมอบประสบการณ์ใหม่ในการค้นหาข้อมูล แต่การทำ SEO ให้เหมาะสมเพื่อที่ Perplexity จะได้นำข้อมูลของเราไปแสดงบนหน้าผลลัพธ์การค้นหานั้น อาจต้องมีการปรับตัวเล็กน้อย แต่โดยพื้นฐานแล้วหัวใจสำคัญในการทำ SEO ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากอย่างที่หลายคนกำลังกังวลอยู่

 

TL_Criclabs_Toon_02

ทำ SEO ต้องคำนึงถึงมนุษย์ ไม่ต้องเดินตามเทรนด์ใหม่ๆ เสมอไป

ผมอยากแบ่งปัน insight ที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง นั่นก็คือแวดวงการทำ SEO ค่อนข้างที่จะหมกมุ่นอยู่กับอัลกอริทึมที่ Google อัปเดตตามปกติ หรือในเรื่องของเครื่องมือใหม่ๆ รวมถึงเรื่องของ AI เป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญและเป็นอะไรที่คนทำ SEO ไม่สามารถปล่อยปละละเลยได้ 

แต่สิ่งที่คนทำ SEO มักมองข้ามหรือไม่ได้ให้ความสำคัญมากพอ จนทำให้หลายคนถึงขั้นกับติดกับดักและไม่สามารถทำแคมเปญ SEO ที่จัดการอยู่ให้สร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง เพราะว่า SEO นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยใครเพียงคนเดียว แต่เป็นงานที่ต้องทำร่วมกับทีมอื่นและใช้ทรัพยากรจากทีมต่างๆ เพื่อมาช่วยทำงานได้มากน้อยแค่ไหน และเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้แคมเปญ SEO ประสบความสำเร็จ 

สมมติว่ามีคนหนึ่งที่มีความรู้เรื่องอัลกอริทึม หรือ AI มากๆ แต่พอถึงคราวที่ต้องประยุกต์ใช้ความรู้กับแคมเปญ SEO ที่ต้องทำจริงๆ กลับเป็นคนต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด หรือไม่สามารถดึงคนจากทีมอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาช่วยทำได้ แคมเปญนั้นก็จะล้มเหลวและไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้

ในทางกลับกัน หากกระบวนการในการทำ SEO ของผมเป็นเรื่องพื้นฐานที่ใครๆ ก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย เช่น ปรับ title กับ meta tag, ปรับแต่งเว็บไซต์ให้โหลดเร็วขึ้น, หรือจัดการโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เหมาะสม แม้ว่าจะดูเป็นอะไรที่ธรรมดาและไม่ได้ใช้เทคนิคใหม่ๆ แต่ผมดันเก่งมากในการดึงทีมอื่นให้ยินดีที่จะเข้ามาส่วนร่วมกับแคมเปญ SEO ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะออกมาดีและประสบความสำเร็จในที่สุด

จากประสบการณ์ของผมที่เคยทำงานกับบริษัทขนาดใหญ่มาก่อน ทำให้เห็นว่าจะมีทีมต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ราว 3-4 ทีม ซึ่งถือเป็นปัจจัยภายนอกที่สำคัญที่สุดในการทำแคมเปญ SEO ให้ประสบความสำเร็จ และแน่นอนว่าสำคัญกว่าการอัปเดตอัลกอริทึมของ Google หรือเทรนด์ AI ที่มีมาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยซ้ำไป

 

แคมเปญ SEO ที่ประสบความสำเร็จมอบความภูมิใจให้ทุกคนที่มีส่วนร่วม

แนวคิดที่จำเป็นต้องมีหากคุณอยากเป็นคนทำ SEO ได้ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มต้นจากการกำหนดให้ชัดเจนว่าอะไรบ้างคือสิ่งที่ต้องใช้ระหว่างการทำแคมเปญ ไม่ใช่ว่าคุณมีกลยุทธ์การทำ SEO ที่คิดขึ้นมาใหม่และแตกต่างจากคนอื่น หรือการที่คุณรู้เรื่อง AI พร้อมกับนำมาประยุกต์ใช้ในแคมเปญได้ดีกว่าคนอื่น แต่เป็นการที่คุณสามารถที่จะดำเนินการขั้นตอนพื้นฐานทั่วไปในการทำ SEO ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทีมอื่นเข้ามาช่วยในแคมเปญได้มากขนาดไหน

สำหรับผมแล้ว การทำ SEO เป็นสิ่งที่เติมเต็มหลายสิ่งหลายอย่างให้กับผู้ใช้หรือคนทั่วไป ด้วยการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ค้นพบสินค้าหรือบริการที่ต้องการ อาจเป็นของเราเองหรือของลูกค้าที่ได้ทำแคมเปญ SEO ให้ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นพยายามที่จะมองหาสิ่งที่ดีที่สุด หรืออยากรู้จักเราอยู่แล้ว ได้ค้นพบเราผ่านทาง search engine เรียกว่าเป็นช่องทางที่มีความโรแมนติกและได้มาซึ่งผู้ชมที่มีคุณภาพ

ไม่เพียงเท่านี้ SEO ยังเป็นเหมือนเครื่องมือที่ทำให้ทีม designer, developer, หรือทีมใดๆ ก็ตามในองค์กร บรรลุเป้าหมายของแต่ละทีมได้ และนำเป้าหมายเหล่านั้นมาตั้งเป็นจุดหมายร่วมกันสำหรับการทำแคมเปญ SEO ได้ ท้ายที่สุดแล้ว ความร่วมมือร่วมใจของทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำ SEO จะทำให้พวกเขาเหล่านั้นรู้สึกภูมิใจและรู้ว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้นมาจากพลังของทุกคนอย่างแท้จริง

TL_Criclabs_Toon-profileภูวิทย์ ลิมวิภูวัฒน์ 
ผู้ร่วมก่อตั้ง, Criclabs

คุณตูนเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Criclabs ดิจิทัลโซลูชันเอเจนซีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเชี่ยวชาญในการช่วยแบรนด์ต่างๆ ออกแบบ พัฒนา และทำให้ดิจิทัลโปรดักต์ของพวกเขาเติบโต พร้อมกับส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ