บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

แนวโน้มการจ้างงานในปี 2023 หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำรวจความท้าทายและกลยุทธ์ในการสรรหาบุคลากรในปี 2023

business-job-interview-concept-900x600

 

บทนำ

ผลที่ตามมาหลังจากการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างรวดเร็ว การเกิดขึ้นของการทำงานทางไกลได้เริ่มแพร่หลายและมีอิทธิพลอย่างมากต่อแนวโน้มการจ้างงานหลังการแพร่ระบาดในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี

ที่ Seven Peaks Software เราก็พบกับความท้าทายเหล่านี้เช่นกัน แต่ด้วยการติดตามเทรนด์ที่แพร่หลายและใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ เราจึงสามารถค้นหาผู้สมัครที่เหมาะสมได้สำเร็จ ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทายมากก็ตาม

แนวโน้มการจ้างงานหลังการแพร่ระบาดที่จะโดดเด่นในอีก 5 ปีข้างหน้า

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการสรรหาบุคลากรยุคใหม่มากขึ้น

Zoom, Google Meet และ Microsoft Teams ไม่ได้แค่มีส่วนร่วมในแนวทางใหม่ของการทำงานทางไกลที่ได้รับความนิยมขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงกระบวนการจ้างงานไปหลายอย่างอีกด้วย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการสรรหาบุคลากรในยุคปัจจุบัน ด้วยการสัมภาษณ์ทางออนไลน์ที่ช่วยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและลบข้อจำกัดของการเข้ามาที่ยังออฟฟิศ นวัตกรรมนี้ช่วยให้ผู้สรรหาสามารถเข้าถึงและค้นพบเหล่าผู้มีความสามารถได้จากทั่วโลก

จากข้อมูลของ shrm.org เปิดเผยว่าผู้ใช้ LinkedIn มากกว่า 70% เห็นพ้องกันว่าการจ้างงานแบบไฮบริด ซึ่งมีทั้งการสัมภาษณ์แบบออนไลน์และแบบตัวต่อตัว จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในกระบวนการสรรหาบุคลากรในอนาคต

กลยุทธ์การสรรหาความหลากหลาย

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก กำลังกลายเป็นปัจจัยหลักที่ผู้หางานยุคใหม่กำลังมองหาจากสถานที่ทำงานในปัจจุบัน

มีใครบ้างที่ไม่อยากทำงานในที่ที่พวกเขาสามารถแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงได้อย่างเต็มที่และยอมรับความแตกต่างของทุกคนได้โดยไม่มีข้อแม้

การเปิดรับความแตกต่างและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมจะทำให้บริษัทของคุณโดดเด่นกว่าที่อื่นๆ โดยกลยุทธ์การสรรหาบุคลากรที่ดีและมีความหลากหลายอย่างแท้จริงจะสามารถช่วยแสดงให้พนักงานปัจจุบันของคุณเห็นว่าบริษัทของพวกเขาให้ความสำคัญกับค่านิยมเหล่านี้อย่างจริงจังสำหรับสมาชิกในทีมทุกคน

นี่คือตัวอย่างบางส่วนของกลยุทธ์ดังกล่าว

  • ใส่ใจเรื่องความหลากหลาย ความเสมอภาค และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันสำหรับทุกเรื่อง (ผู้สมัครสามารถรับรู้ได้เมื่อสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณทำกันอยู่จริงๆ)
  • สื่อสารและแสดงความมุ่งมั่นของคุณในการดึงดูดผู้สมัคร
  • อัปเดตทุกเรื่องกับพนักงานของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนรู้สึกสบายใจ
  • การจ้างงานผู้สมัครจากทั่วโลกสามารถช่วยสร้างสถานที่ทำงานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง

บทบาทด้านเทคนิคเพิ่มขึ้นตามความต้องการที่สูงขึ้น

ด้วยความที่เทคโนโลยีได้กลายมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของทุกธุรกิจและทุกภาคส่วนในยุคปัจจุบัน นั่นส่งผลให้แนวโน้มในการสรรหาบุคลากรด้านเทคโนโลยีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยระหว่างปี 2019–2020 จำนวนงานด้านเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 60,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นประมาณ 1.2% โดยข้อมูลนี้มาจาก Forrester

จากการสำรวจเดียวกันยังพบอีกว่า data scientist และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นตำแหน่งงานที่มีความต้องการสูงมากจากบรรดาองค์กรต่างๆ โดยเพิ่มขึ้น 94% และ 10% ตามลำดับ

โดยปัจจัยที่ทำให้จำนวนตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีพุ่งสูงขึ้นมาจากการที่บริษัทจำนวนมากได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปเป็นแบบทางไกลในช่วงที่มีโรคระบาด เนื่องจากงานด้านเทคโนโลยีกำลังมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง จำนวนตำแหน่งที่เปิดรับสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์และบทบาททางเทคนิคอื่นๆ มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ เงินเดือนเฉลี่ยของสายงานเทคโนโลยียังค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2020 เนื่องจากงานด้านเทคโนโลยีเป็นที่ต้องการอย่างมากนั่นเอง

5 กลยุทธ์ในการสรรหาบุคลากรเพื่อเอาชนะความท้าทายในช่วงระหว่างและหลังการระบาดใหญ่

1) การทำงานจากระยะไกลหรือแบบผสมผสานเป็นที่นิยมมากกว่า

แม้ว่าการทำงานจากที่บ้านอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด แต่บางคนก็รู้สึกสนุกกับมันและพบว่ามันมีประโยชน์มากกว่าการไปทำงานเต็มเวลาในออฟฟิศ หลายบริษัทกำลังพิจารณาเพิ่มนโยบายการทำงานทางไกลหรือแบบผสมผสานเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน

2) ใช้ประโยชน์จากการจ้างงานทางไกลเพื่อขยายขอบเขตการว่าจ้างให้กว้างขึ้น

การจ้างงานและการทำงานจากระยะไกลสามารถนำผู้สมัครที่มีความสามารถจากทั่วทุกมุมโลกมาสู่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้

3) เปลี่ยนกระบวนการสรรหาบุคลากรให้เป็นดิจิทัล

เมื่อมีคนเห็นตำแหน่งงานที่บริษัทของคุณเปิดรับสมัครมากขึ้นเท่าไหร่ จำนวนผู้สมัครก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น รวมถึงคุณยังจำเป็นต้องใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อทำให้งานบางอย่างเร็วและสะดวกขึ้นอีกด้วย

4) ทักษะการทำงานกำลังพัฒนา

ทักษะด้านการพัฒนาส่วนบุคคลเป็นปัจจัยที่บรรดาผู้สรรหาพนักงานในปี 2020 ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นถึง 44% จากข้อมูลของ LinkedIn

ทักษะด้านอารมณ์ (soft skills) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสามารถในการปรับตัวนั้นมีความสำคัญต่อองค์กรอย่างมาก เนื่องจากพนักงานต้องสามารถที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอได้ ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนไปใช้การประชุมทางวิดีโอและการต้อนรับพนักงานใหม่แบบเสมือนจริง

5) ใช้การตลาดดิจิทัลเพื่อแสดงโอกาสในการทำงานให้ผู้สมัครได้เห็นมากขึ้น

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำเอาหลายบริษัทไม่ยอมเปิดรับผู้สมัครหน้าใหม่ๆ อีกต่อไป นั่นทำให้พนักงานเต็มไปด้วยศักยภาพบางคนอาจคิดว่าบริษัทของคุณไม่ได้จ้างงานเพิ่มด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องแน่ใจว่ากลุ่มเป้าหมายจะเห็นโพสต์หรือโฆษณาที่คุณทำเพื่อดึงดูดให้พวกเขาเข้ามาสมัครงาน

สรุปทิ้งท้าย

การนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้และติดตามเทรนด์ปัจจุบัน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการสรรหาบุคลากรในยุคดิจิทัลที่รูปแบบการทำงานเปลี่ยนเป็นการทำงานจากระยะไกลได้อย่างมาก

ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ แนวโน้มการจ้างงานบางส่วนหลังการแพร่ระบาดอาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีจะต้องมีวิวัฒนาการเช่นเดียวกับที่มนุษย์จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและอยู่ในจุดที่พวกเขาอยู่ทุกวันนี้

ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยความที่เทรนด์การสรรหาบุคลากรจะเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ความสามารถในการปรับตัวจึงเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดที่ทั้งนายจ้างและลูกจ้างจำเป็นต้องมีเพื่อที่จะโดดเด่นในตลาดงานยุคปัจจุบันนั่นเอง


คุณกำลังมองหางานด้านเทคโนโลยีในฝันอยู่ใช่ไหม?
ดูตำแหน่งงานทั้งหมดที่เราเปิดรับด้านล่างนี้
ดูตำแหน่งงาน