บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

iOS 17 มีฟีเจอร์ อะไรใหม่ที่น่าสนใจให้ developer เอาไปพัฒนาต่อยอดบ้าง?

ทันทีที่ Apple ปล่อย iPhone 15 ออกมา แฟนๆ ก็ตั้งคำถามว่า iOS 17 มีอะไรใหม่บ้าง รวมถึงมือถือรุ่นเก่ากว่ามีรุ่นไหนบ้างที่รองรับ iOS 17 ไม่เพียงผู้ใช้ทั่วไปจะรู้สึกตื่นเต้นเท่านั้น แต่ทางฝั่งของเหล่า iOS developer เองก็สนใจกับการอัปเดต iOS ใหม่ครั้งนี้ไม่แพ้กัน ในบทความนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ iOS 17 ที่ developer สามารถนำไปต่อยอดกับการพัฒนา digital product ในอนาคตได้

ฟีเจอร์เด่นบน iOS 17 มีอะไรใหม่บ้าง?

เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่า iOS developer สามารถที่จะพัฒนาอะไรใหม่ๆ จากการที่ iOS 17 ถูกปล่อยมาได้บ้าง เราจึงอยากยกตัวอย่าง 7 ฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่บน iPhone 15, iPhone 15 Pro, และ iPhone 15 Pro Max ให้คุณได้รู้ก่อนเป็นอันดับแรก

  • StandBy หน้าจอพร้อมรอใช้งานที่ปรับให้แสดงอะไรได้หลากหลาย

ใน iOS 17 คุณสามารถที่จะพลิกมือถือวางในลักษณะแนวนอนขณะที่ชาร์จอยู่ผ่านสายหรือแบบ wireless เพื่อดูข้อมูลต่างๆ ได้แล้ว ตั้งแต่การที่คุณสามารถเปลี่ยน iPhone ให้เป็นนาฬิกาปลุก  ดูรูปภาพที่ชื่นชอบ ไม่ก็ตั้งแสดงเตือนสภาพอากาศ หรือจะควบคุมเพลงโปรดที่กำลังฟังอยู่ และอื่นๆ อีกมากมาย

  • Contact Posters โปสเตอร์แสดงรายชื่อคนโทรเข้า-ออกที่สวยสะดุดตา

เพิ่มความสนุกและรู้ว่าคุณหรือใครคือสายที่โทรเข้า-ออก ด้วยการสร้าง Contact Poster ที่จะแสดงอยู่บนหน้าจอของคุณและคนที่คุณโทรหาหากพวกเขาใช้ iPhone ที่มาพร้อม iOS 17 ได้มากขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถแก้ไขรูปภาพหรือฟอนต์ได้ตามใจชอบอีกด้วย

  • Live Sticker อิสระในการสร้างสติกเกอร์น่ารักๆ เป็นของคุณเอง

Apple เข้าใจพฤติกรรมชอบถ่ายรูปของผู้ใช้ iPhone ดี พวกเขาจึงทำ Live Sticker ที่เปิดโอกาสให้นำรูปที่ถ่ายไว้ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ มาทำเป็นสติกเกอร์ ปรับแต่งให้แตกต่างด้วยเอฟเฟกต์ที่มีภายในฟีเจอร์ เพื่อใช้สติกเกอร์ที่คุณ DIY มาพิเศษไม่เหมือนใคร ส่งให้กับเพื่อนๆ หรือคนที่รู้จัก ผ่านทางการเพิ่มไว้บนแป้นพิมพ์ หรือจะใช้แต่งรูปภาพหรือภาพถ่ายหน้าจอก็ได้เช่นกัน

  • AirDrop ที่พัฒนาให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น

จากเดิมที่เราเคยใช้ AirDrop ส่งรูปหรือไฟล์ต่างๆ ให้กับอุปกรณ์ของ Apple ได้ในบริเวณใกล้เคียง แต่ใน iOS 17 นั้น คุณสามารถถือ iPhone แล้วนำไปจ่อใกล้กับ iPhone ของคนที่คุณอยากจะแลกเปลี่ยนเบอร์มือถือ, contact poster, และอีเมลได้ด้วย NameDrop แถมยังใช้ฟีเจอร์ SharePlay เพื่อฟังเพลงหรือเล่นสื่อบันเทิงต่างๆ ได้พร้อมกันทันทีแค่นำ iPhone ทั้งสองเครื่องมาวางไว้ใกล้กันเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ ฟีเจอร์ NameDrop จะช่วยให้บรรดาที่ปรึกษาธุรกิจหรือเซลล์สามารถขอ contact จากลูกค้าเพื่อไว้ใช้ติดต่อได้ง่ายขึ้น แถมยังกำหนดรูปแบบของ Contact Poster ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของบริษัท และช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายโดยไม่ต้องบอกข้อมูลส่วนตัวหรือส่งข้อมูลให้ยุ่งยาก

  • Interactive widgets ที่ผู้ใช้ตอบสนองและสั่งการสิ่งต่างๆ ได้

เปลี่ยนวิดเจ็ตแบบเดิมๆ ที่ทำได้แค่แสดงข้อมูล ให้กลายเป็นสิ่งที่ผู้ใช้สามารถตอบสนองและสั่งการสิ่งต่างๆ ได้ผ่านหน้าจอโดยตรง ด้วยวิดเจ็ตบนหน้าโฮม, หน้าล็อก, และหน้าสแตนด์บาย ที่คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้วิดเจ็ตเตือนเมื่อทำสิ่งที่คุณกำหนดไว้เสร็จแล้วหรือยัง ไปจนถึงการควบคุมแสงสว่างในห้องนอนก็ทำได้ 

  • Messages ที่สามารถเช็กอินและบอกคนที่ห่วงใยว่าคุณปลอดภัย

ในยุคสมัยที่ทุกๆ วันเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย ผู้ใช้ iOS 17 สามารถที่จะเช็กอินเพื่อบอกให้ครอบครัวหรือเพื่อนที่ห่วงใยคุณรู้ว่า ณ ขณะนั้นคุณไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ คุณยังแชร์ตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันหรือขอทราบตำแหน่งของผู้ที่คุณกำลังคุยในแอปฯ ข้อความได้เช่นกัน และหากอยู่ดีๆ คนที่เราเลือกดูสถานะการเดินทางเกิดหยุดชะงัก ระบบจะส่งข้อมูลที่อยู่ล่าสุด, สถานะแบตฯ, และความแรงสัญญาณมือถือ ให้คุณได้รู้ในทันที

  • Accessibility ที่ช่วยให้ผู้บกพร่องใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น

iOS 17 ได้อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้พิการทางสายตาและผู้พิการทางการได้ยิน สามารถใช้ชีวิตกับ iPhone ของพวกเขาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น  โดยแบ่งออกเป็น 3 ฟีเจอร์ย่อยที่น่าสนใจดังนี้

    • Live Speech ที่เพียงพิมพ์ข้อความเพื่อให้มือถือพูดออกเสียงให้คนที่กำลังคุยด้วยที่ปลายทางได้ยิน ทั้งยังบันทึกวลีหรือคำพูดที่ใช้บ่อยเพื่อเป็นเสียงแทรกในระหว่างการพูดคุยทาง Facetime ได้ด้วย 
    • Personal Voice ช่วยให้คุณสามารถสร้างเสียงที่จำลองขึ้นมาให้เหมือนกับเสียงของคุณ นั่นช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงจะสูญเสียการพูด (ALS) สามารถใช้เสียงที่บันทึกไว้ใน iPhone สื่อสารกับคนอื่นๆ ผ่านฟีเจอร์ Live Speech ได้ในอนาคต
    • Point to Speech ผู้พิการทางสายตาจะใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายยิ่งขึ้น เพียงแค่เปิดฟีเจอร์นี้แล้วนำนิ้วไปชี้ยังจุดที่ต้องการให้ระบบ LiDAR อ่านออกเสียงเป็นคำหรือข้อความที่ปรากฏอยู่บริเวณนั้นๆ

iOS developer มองว่าฟีเจอร์ไหนใน ios 17 ที่น่าสนใจและควรนำไปพัฒนาต่อบน digital product

 

บรรดาฟีเจอร์บน iOS 17 ที่หยิบยกมาพูดคุยก่อนหน้านี้ หากมองจากมุมของ iOS developer ที่คลุกคลีอยู่กับการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์ iOS เช่น iPhone และ iPad ก็พอจะมองออกว่าฟีเจอร์เหล่านี้สามารถนำไป implement เพื่อพัฒนา digital product ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันได้ไม่มากก็น้อย เพื่อไม่ให้คุณพลาด insight ดีๆ เรามาดูไปพร้อมกันเลย

  • NameDrop

นี่คือหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่อยู่ภายใต้การอัปเดต AirDrop บน iOS 17 ที่ผู้ใช้ iPhone สองเครื่องสามารถแชร์ข้อมูลการติดต่อ เพียงนำมือถือไปถืออยู่ไว้ใกล้กัน จากนั้น Contact Poster ที่มีเบอร์มือถือ ชื่อ และอีเมลของเจ้าของ iPhone เครื่องนั้นจะปรากฏขึ้น พร้อมกับเลือกได้ว่าจะเป็นผู้รับอย่างเดียวหรือแชร์ให้ก็ได้เช่นกัน

โอกาสในการนำไปใช้กับการพัฒนา digital product

ผู้ใช้ทั่วไปอาจคิดว่า NameDrop เป็นเหมือนลูกเล่นใหม่ของ AirDrop แต่ในมุมมองของ iOS Developer แล้ว การที่เห็น Apple นำฟีเจอร์ AirDrop มาเสริมความสามารถในการใช้งานจนออกมาเป็น NameDrop ก็ทำให้ developer มีไอเดียเพื่อเอาไปพัฒนาต่อยอดเป็นอย่างอื่นเพิ่มเติมได้เช่นกัน

  • SharePlay

แม้ว่า SharePlay จะมีมาตั้งแต่ iOS 15 แต่เราก็ยังมองว่าฟีเจอร์ที่สามารถแชร์สิ่งที่กำลังชมหรือใช้งานอยู่กับคนที่คุณชักชวนให้ร่วมทำกิจกรรมไปพร้อมกัน ระหว่างการใช้ FaceTime, การดูคอนเทนต์วิดีโอในบางแอปฯ และอื่นๆ ซึ่งยังมีพื้นที่สำหรับการนำพัฒนาต่อได้อยู่เรื่อยๆ ด้วยการรองรับการใช้งานได้ครบทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น iOS, iOS iPad, tvOS, และ MacOS ทำให้ฟีเจอร์นี้ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายมากๆ

โอกาสในการนำไปใช้กับการพัฒนา digital product

SharePlay เหมาะแก่การนำไปพัฒนาต่อยอดและประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะกับแอปฯ ด้านความบันเทิง, การเรียนการศึกษา, และการบริหารจัดการลูกค้าอย่างแอปฯ CRM เนื่องจาก digital product ที่กล่าวมาเหล่านี้จะน่าสนใจและใช้งานได้ดีขึ้น ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ใช้แอปฯ ที่เชื่อมโยงผู้คนที่อยู่ห่างไกลให้ใกล้กัน ช่วยให้การทำกิจกรรมร่วมกันสนุกมากยิ่งขึ้น และยกระดับประสบการณ์ในการใช้งานให้ดีกว่าเดิม

  • Interactive widgets

หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่บน iOS 17 ที่ทุกคนใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากๆ อย่างวิดเจ็ตแบบโต้ตอบที่ให้ผู้ใช้ดูสถานะ แตะเพื่อสังการหรืออัปเดตสิ่งต่างๆ ได้เพียงปลายนิ้ว โดยไม่ต้องเข้าไปในแอปฯ เพื่ออัปเดตหรือจัดการให้ยุ่งยากเหมือนก่อน กล่าวได้ว่า Interactive widgets ถือเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนเฝ้ารอที่จะได้ใช้งานบน iPhone อย่างแท้จริง

โอกาสในการนำไปใช้กับการพัฒนา digital product

เดิมที่วิดเจ็ตบน iPhone ก็เป็นสิ่งที่เพิ่มลูกเล่นและสร้างสีสันให้กับแอปฯ ที่มีสิ่งนี้อยู่แล้ว ยิ่งพออัปเดต iOS 17 มาเป็นวิดเจ็ตแบบโต้ตอบด้วยแล้ว โอกาสที่ iOS developer จะพัฒนาแอปฯ ให้น่าสนใจก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า โดยเราจะยกตัวอย่างแอปฯ ที่มี Interactive widgets มาให้คุณได้ดูเป็นไอเดียดังนี้

เริ่มตั้งแต่แอปฯ ในหมวดการฟังเพลง อย่าง Doppler ที่ผู้ใช้สามารถกดเล่น, หยุดชั่วคราว, ข้ามหรือย้อนเพลงได้ผ่านวิดเจ็ตแบบโต้ตอบ หรือจะเป็นแอปฯ การทำสมาธิอย่าง Zenitizer ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเริ่มและหยุดกิจวัตรการทำสมาธิต่างๆ ได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว มาถึงตัวอย่างสุดท้ายอย่าง FoodNoms แอปฯ โภชนาการส่วนบุคคล ที่มีวิดเจ็ตซึ่งบ่งบอกว่าในแต่ละวันผู้ใช้จะต้องกินอาหารที่มีสารอาหารแต่ละอย่างในปริมาณเท่าไร รวมถึงแคลอรีที่บริโภค และจะต้องผู้ใช้จะต้องอัปเดตด้วยการแตะว่าได้กินจนถึงปริมาณที่กำหนดไว้แล้ว

  • Live Activities

จริงอยู่ที่ Live Activities จะเพิ่มเข้ามาตั้งแต่ iOS 16 แต่ฟีเจอร์แสดงกิจกรรมแบบเรียลไทม์ที่ช่วยโชว์ข้อมูลสำคัญ หรือแจ้งเตือนสิ่งต่างๆ ให้ผู้ใช้อยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องเสียเวลาปลดล็อกเข้าไปดูในหน้าจอโฮม เพราะดูได้จากหน้าจอล็อกได้ทันทีนั่นเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบรรดา iOS developer ถึงเล็งเห็นว่าฟีเจอร์นี้เหมาะแก่การพัฒนาเพื่อปรับใช้กับแอปพลิเคชันในอนาคต

โอกาสในการนำไปใช้กับการพัฒนา digital product

สาเหตุที่ Live Activities เป็นฟีเจอร์ที่ควรค่าแก่การนำมาพัฒนาใน iOS 17 นั่นก็เพราะว่า iPhone 15, iPhone 15 Pro, และ iPhone 15 Pro Max มี Dynamic Island แล้วทุกเครื่อง developer จึงมีโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับแอปฯ iOS ที่รับผิดชอบอยู่ เพื่อสร้างลูกเล่นที่ดึงดูดและกระตุ้นให้เกิดการใช้ Dynamic Island ที่มีอยู่ได้มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น Flighty แอปฯ ที่ผู้ใช้สามารถติดตามเที่ยวบินบนหน้าจอล็อกได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับดูหมายเลขเที่ยวบิน ข้อมูลประตูขึ้นเครื่อง และเวลาออกเดินทางและมาถึงได้ ต่อมาเป็นแอปฯ ติดต่อผลการแข่งขันฟุตบอลอย่าง FotMob ที่ผู้ใช้สามารถติดตามผลการทำประตูได้ตลอดการแข่งขัน ผ่านทางหน้าจอล็อกและยังแสดงผลคะแนนผ่านบริเวณ Dynamic Island ได้โดยไม่ต้องขยายเพื่อดูสกอร์การทำประตูแต่อย่างใด

  • StandBy

ก่อนหน้านี้โหมด StandBy เคยใช้งานได้เฉพาะตอนวาง iPhone ไว้ในแนวตั้งเท่านั้น แต่การอัปเดต iOS 17 ครั้งล่าสุด ผู้ใช้สามารถเสียบสายชาร์จหรือวางไว้ในแนวนอนบนแท่นชาร์จไร้สาย MagSafe ได้แล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ iOS developer มองเห็นโอกาสในการพัฒนาวิดเจ็ตเพื่อมาแสดงบนโหมด StandBy นั่นเอง

โอกาสในการนำไปใช้กับการพัฒนา digital product

เนื่องจากตอนนี้โหมด StandBy ที่ Apple ได้ปล่อยออกมากับ iOS 17 สามารถดูเวลา, อุณหภูมิ, สภาพอากาศ, ดูสถานะตลาดหุ้น, แสดงรูปภาพ, และแม้แต่ควบคุมเพลงที่กำลังฟังอยู่ โดยไม่ต้องหยิบมือถือมาดูในระหว่างกำลังชาร์จ เราคิดว่ายังมีโอกาสที่แอปฯ ต่างสามารถพัฒนาวิดเจ็ตเพื่อมาแสดงผลบนโหมด StandBy ในแนวนอนได้อีกมากมาย

มาเริ่มกันที่วิดเจ็ตที่ขาดหายไปอย่างการเช็กอีเมล, ดูข้อความต่างๆ, เช็กโซเชียลมีเดีย, หรือแม้แต่การอัปเดตสถานะด้านการกินอาหารและด้านสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งในอนาคตแอปฯ ที่สามารถพัฒนาวิดเจ็ตให้ใช้งานได้บนโหมด StandBy ผู้บริโภคก็มีแนวโน้มที่จะหันมาใช้งาน digital product ของคุณเพิ่มมากขึ้น

พัฒนา digital product ที่มีฟีเจอร์เหมาะสมกับผู้ใช้ iOS 17 เวอร์ชันล่าสุดตอนนี้

จะเห็นได้ว่าการอัปเดต iOS 17 ไม่เพียงแต่มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจและช่วยให้ผู้ใช้ iPhone มีความสะดวกสบายและใช้ประโยชน์จากมือถือสุดอัจฉริยะได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นโอกาสสำคัญขององค์กรที่มี digital product ในรูปแบบของแอปพลิเคชันหลากหลายประเภท ด้วยการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อรองรับการใช้งานกับฟีเจอร์ที่เราได้หยิบยกมา เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น 

หากคุณสนใจที่จะทำสร้างหรือพัฒนาดิจิทัลโปรดักต์ให้ออกมาประสบความสำเร็จ พูดคุยกับ iOS developer ผู้เชี่ยวชาญของเราตอนนี้ เพื่อรับคำปรึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณฟรี