บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

Automated Drilling Optimization คืออะไร ช่วยธุรกิจ Oil & Gas อย่างไร

SP_202511_[XX] - Automated O&G-TH_01-HeroBanner


การมาถึงของ automated drilling optimization (ADO) ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่เป็น "สมองอัจฉริยะ" ที่ใช้ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อคำนวณและสั่งการปรับค่าการเจาะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา ได้เปลี่ยนการขุดเจาะปิโตรเลียมที่เคยอิงกับสัญชาตญาณของวิศวกรกับบรรดาเครื่องมือขุดเจาะมากมาย ให้กลายเป็นการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ได้มาจากบรรดาอุปกรณ์ IoT แบบเรียลไทม์

ความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพนี้เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพิจารณาถึงเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในอุตสาหกรรม ข้อมูลจาก IEA (World Energy Investment 2024) ระบุว่า แม้จะมีเทรนด์ของพลังงานสะอาด แต่เม็ดเงินลงทุนในส่วนของ การสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วโลกในปี 2023 ยังคงสูงถึง 539 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินราว 17.55 ล้านล้านบาท

ในสภาวะที่การลงทุนสูงและแรงกดดันด้านต้นทุนมีมากเช่นนี้ การเจาะให้เร็วขึ้นและลดต้นทุนจึงไม่ใช่แค่เป้าหมายที่วางเอาไว้ในระยะ 3-5 ปีเท่านั้น แต่คือความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำให้สำเร็จอย่างเร็วที่สุด และ ADO คือกลยุทธ์สำคัญที่เข้ามาตอบโจทย์นี้โดยตรง เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนมหาศาลนั้นถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด

Seven Peak ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา digital product และเคยร่วมงานกับบริษัทที่พัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ช่วยสนับสนุนการขุดเจาะน้ำมันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะมาอธิบายว่า automated drilling optimization คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้างต่อธุรกิจปิโตรเลียมในยุคปัจจุบัน

Automated Drilling Optimization (ADO) คืออะไร และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจ Oil & Gas ได้อย่างไร

SP_202511_[XX] - Automated O&G-TH_02

หลายคนมักเข้าใจผิดว่า automated drilling optimization (ADO) คือ การเจาะแบบอัตโนมัติ (automation) ซึ่งหมายถึงการใช้เครื่องจักรทำงานตามคำสั่งที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้า เช่น สั่งให้ระบบล็อกน้ำหนักกดหัวเจาะ (WOB) ให้คงที่ที่ 5 ตัน แต่ในความเป็นจริง ADO ก้าวล้ำไปกว่านั้นมาก เพราะมันคือการเพิ่มประสิทธิภาพแบบอัตโนมัติ (optimization)

ADO คือระบบอัจฉริยะที่ทำหน้าที่เหมือน "สมอง" ของกระบวนการขุดเจาะ โดยใช้ AI และโมเดลฟิสิกส์ มาวิเคราะห์ข้อมูลที่ส่งตรงมาจากเซ็นเซอร์นับพันจุดบริเวณก้นหลุม (เช่น แรงสั่นสะเทือน, แรงบิด, อัตราการไหล) แบบเรียลไทม์ จากนั้นนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลเทียบกับแบบจำลองดิจิทัลของหลุมขุดเจาะ (digital twin) ในเสี้ยววินาที

เป้าหมายสูงสุดของ ADO คือการค้นหาจุดที่ดีที่สุดในการเจาะ ณ สภาวะนั้นๆ ซึ่งเป็นจุดสมดุลที่ทำให้ได้ ความเร็วในการเจาะ (rate of penetration - ROP) สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ยังรักษาความปลอดภัยและปกป้องอุปกรณ์ราคาแพง (เช่น หัวเจาะ หรือชุดอุปกรณ์ก้นหลุม BHA) ไม่ให้เสียหายจากแรงสั่นสะเทือนหรือแรงบิดที่มากเกินไป พูดง่ายๆ ก็คือ

  • Automation (อัตโนมัติ): ทำตามคำสั่งที่ตั้งไว้ เช่น รักษาน้ำหนักกดไว้ที่ 5 ตัน
  • Optimization (การเพิ่มประสิทธิภาพ): ค้นหาคำสั่งที่ดีที่สุดเอง เช่น จากการวิเคราะห์ข้อมูลตอนนี้ น้ำหนักกดที่ดีที่สุดคือ 5.8 ตัน และความเร็วรอบ 120 รอบต่อนาที เพื่อให้เจาะได้เร็วสุดโดยไม่เกิดการสั่นสะเทือน

ไม่เพียงเท่านี้ automated drilling optimization ยังลดความผันผวนจากความเหนื่อยล้าของวิศวกรผู้ควบคุมที่ต้องคอยดูแลการขุดเจาะตลอดเวลาที่เข้าพื้นที่หน้างาน ซึ่งต่างจาก ADO ช่วยให้สามารถขุดเจาะน้ำมันและก๊าซได้ด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุดอย่างสม่ำเสมอ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจุดนี้เองที่วิศวกรได้เปลี่ยนมาทำหน้าที่กำกับดูแลระบบขุดเจาะ วางแผนการขุดเจาะ และติดตามภาพรวมที่เกิดขึ้น โดยปล่อยให้ AI เป็นสิ่งที่คอยควบคุมการขุดเจาะแทน


แพลตฟอร์ม ADO หัวใจหลักที่ช่วยตัดสินใจและสั่งการแทนมนุษย์
แบบเรียลไทม์

แพลตฟอร์ม ADO ทำงานเสมือนกับเป็นนักบินผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบควบคุมของแท่นขุดเจาะ และทำงานประสานกันตลอดเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าการเจาะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี 4 กระบวนการหลักที่เกี่ยวข้องดังนี้

icon-big-data
รวบรวมข้อมูล

ระบบ ADO จะเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์ที่อยู่ใกล้หัวเจาะ (MWD/LWD - measurement while drilling / logging while drilling) เพื่อดึงข้อมูลสำคัญแบบเรียลไทม์จากก้นหลุม เช่น ความเร็วรอบ, น้ำหนักกดหัวเจาะ, แรงบิด, แรงสั่นสะเทือน, และอัตราการเจาะ

icon-data processing
ส่งและประมวลผลข้อมูลทันที

ข้อมูลมหาศาลจากก้นหลุม จะถูกส่งขึ้นมายังระบบควบคุมบนแท่นขุดเจาะ หรือประมวลผลที่ edge computing (การประมวลผลที่ตัวอุปกรณ์) เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และตอบสนองได้ทันท่วงที ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจในเสี้ยววินาที

icon-data-machine learning
วิเคราะห์และหาจุดที่เหมาะสมที่สุด

อัลกอริทึม machine learning และ AI จะนำข้อมูลจริงที่ได้มาทั้งหมดเทียบกับแบบจำลองดิจิทัล (digital twin) ของหลุมและอุปกรณ์ เพื่อคำนวณหาความเร็วรอบและน้ำหนักกดหัวเจาะที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้อัตราการเจาะสูงสุด โดยที่แรงสั่นสะเทือน เช่น stick-slip หรือการสั่นสะท้าน อยู่ในระดับที่ปลอดภัยตลอดเวลาที่เดินเครื่องขุดเจาะ

icon-data-optimizing
สั่งการและปรับเปลี่ยนอัตโนมัติ

แพลตฟอร์ม ADO จะไม่เพียงแค่แนะนำ (open-loop) แต่จะส่งคำสั่งไปยังระบบ autodriller ของแท่นจุดเจาะโดยตรง เพื่อปรับค่าน้ำหนักกดและความเร็วรอบให้เป็นไปตามจุดที่เหมาะสมที่สุดนั้นทันที ซึ่งเรียกว่า closed-loop control หรือ การควบคุมแบบวงปิด โดยมีวิศวกรผู้ควบคุมทำหน้าที่กำกับดูแลภาพรวมการทำงาน

 

เจาะลึก 5 ประโยชน์ที่จับต้องได้เมื่อใช้ระบบ ADO ในการขุดเจาะปิโตรเลียม

SP_202511_[XX] - Automated O&G-TH_03

ด้วยความที่แพลตฟอร์ม ADO สามารถตัดสินใจและควบคุมการเจาะแบบเรียลไทม์ได้นั้น ไม่ใช่แค่การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้นแค่บางจุดเท่านั้น แต่คือทำในสิ่งที่มอบประโยชน์มากมายในระยะยาวให้กับธุรกิจน้ำมันและก๊าซดังต่อไปนี้

เพิ่มความเร็วในการเจาะ

อธิบายว่า ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดคือ AI สามารถหาจุดที่เจาะได้เร็วแต่ปลอดภัยได้ดีกว่ามนุษย์ ทำให้เจาะหลุมเสร็จเร็วขึ้น ลดเวลาการทำงานของแท่นเจาะ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายหลักไปได้มหาศาล

ลดเวลาที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

ระบบ ADO จะคอยตรวจสอบและควบคุมตัวแปรอันตราย เช่น แรงสั่นสะเทือน และแรงบิด ไม่ให้เกินขีดจำกัดที่ปลอดภัย สิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์ใต้ดินราคาแพงจะเสียหายกะทันหัน เช่น หัวเจาะพัง, ท่อติด, หรือชุดอุปกรณ์ก้นหลุม (BHA) เสียหาย เหตุการณ์เหล่านี้คือตัวการหลักที่ก่อให้เกิด NPT (non-productive time) หรือเวลาที่แท่นเจาะต้องหยุดทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งนับเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลที่สูญเปล่าโดยใช่เหตุ

ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

นอกเหนือจากการป้องกันความล้มเหลว การควบคุมที่ดีของ ADO ยังทำให้การเจาะนุ่มนวลขึ้น โดยเฉพาะการลดการเกิดอาการติดหรือสะบัดของหัวเจาะ ซึ่งเป็นตัวการทำลายล้างอุปกรณ์ สิ่งนี้ช่วยลดการสึกหรอโดยตรงของ หัวเจาะและ BHA ผลคืออุปกรณ์มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ลดจำนวนครั้งที่ต้องเสียเวลาดึงท่อขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนหัวเจาะ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้หลายชั่วโมงต่อครั้ง

ยกระดับความปลอดภัย

การเจาะที่มีเสถียรภาพและอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา ไม่เพียงแต่ดีต่อตัวอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังดีต่อความปลอดภัยโดยรวมด้วย ระบบช่วยลดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง เช่น การสูญเสียการควบคุมความดันหลุม นอกจากนี้ การทำงานแบบอัตโนมัติยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงจากความผิดพลาดจากมนุษย์ ที่เกิดจากความเหนื่อยล้าหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาดของบุคลากรหน้างาน

เพิ่มความสม่ำเสมอและลดต้นทุน

ADO ช่วยขจัดความผันผวนที่เกิดจากทักษะและประสบการณ์ของวิศวกรแต่ละคน ทำให้การเจาะทุกหลุมมีมาตรฐานสูงและทำได้อย่างสม่ำเสมอ ใกล้เคียงกับสถิติหลุมที่ดีที่สุดที่เคยทำได้ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ควบคุมกะ นอกจากนี้ยังทำให้ต้นทุนการเจาะต่อหลุมลดลงอย่างชัดเจนอีกด้วย


ตัวอย่างการใช้ ADO ในธุรกิจ Oil & Gas ที่เปลี่ยนโฉมการเจาะไปตลอดกาล

แพลตฟอร์ม ADO ไม่ใช่แค่แนวคิดในกระดาษ แต่เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้งานจริงโดยบริษัทผู้ให้บริการ และบริษัทผู้รับเหมาเจาะรายใหญ่ของโลก เพื่อพลิกโฉมการดำเนินงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน นี่คือ 2 ตัวอย่างที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม


Nabors Industries กับระบบ 'SmartROS' และ 'SmartSLIDE'

SP_202511_[XX] - Automated O&G-TH_04

Nabors ในฐานะหนึ่งในผู้รับเหมารับจ้างเจาะ (drilling contractor) รายใหญ่ที่สุดของโลก ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการแท่นเจาะอัจฉริยะที่ชื่อว่า SmartROS (Rig Operating System)

จุดที่ทำให้เห็นว่า ADO มีประสิทธิภาพมากแค่ไหนได้ชัดเจนที่สุดคือโมดูล SmartSLIDE ซึ่งเป็นระบบที่ปฏิวัติการเจาะแบบมีทิศทาง (directional drilling) ที่โดยปกติแล้ว กระบวนการ slide หรือการเจาะโดยให้มอเตอร์ก้นหลุมทำงาน แต่ก้านเจาะไม่หมุนเพื่อปรับทิศทาง เป็นกระบวนการขุดเจาะที่ทำได้ช้ามาก เนื่องจากต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมด้วยความรู้สึกและประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดชีวิตการทำงาน

SmartSLIDE ได้เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการนี้ โดยใช้ AI และอัลกอริทึมขั้นสูงในการควบคุมการ slide ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถรักษาทิศทางของหลุมให้แม่นยำ และยังเจาะได้เร็วกว่าการควบคุมโดยมนุษย์ ลดเวลาที่เคยสูญเสียไปกับการปรับทิศทางแบบเดิมๆ ลงได้อย่างมหาศาล


SLB (Schlumberger) กับบริการ 'DrillOps' ที่เชื่อมโยงการวางแผนและการปฏิบัติงานจริง

SP_202511_[XX] - Automated O&G-TH_05

SLB ซึ่งมีชื่อเดิมว่า Schlumberger เป็นบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำ ได้นำเสนอแพลตฟอร์ม DrillOps ซึ่งเข้ามาแก้ปัญหาคลาสสิกที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของอุตสาหกรรม นั่นคือช่องว่างระหว่างการวางแผนและการปฏิบัติงานจริง

ในอดีต แผนการเจาะถูกสร้างขึ้นในออฟฟิศโดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย แต่เมื่อต้องไปเริ่มการขุดเจาะที่หน้างานจริง วิศวกรอาจเจอกับสภาพชั้นหินหรือปัญหาที่ต่างไปจากแผน DrillOps ทำหน้าที่เชื่อมโยงโลกทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน โดยใช้แบบจำลองดิจิทัล (digital twin) ของหลุม และดึงข้อมูลเรียลไทม์จากก้นหลุมมาวิเคราะห์เทียบกับแผนตลอดเวลา

แทนที่จะแค่พยายามทำตามแผนที่วางไว้ในช่วงก่อนเริ่มกระบวนการขุดเจาะ ระบบ DrillOps จะทำการปรับแผนให้เหมาะสมที่สุดแบบเรียลไทม์ ให้สอดคล้องกับข้อมูลจริงที่เจอ ทำให้การตัดสินใจหน้างานแม่นยำขึ้น ลดความเสี่ยง และมั่นใจได้ว่ากำลังเจาะหลุมด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามหลักวิศวกรรม


ยกระดับการเจาะสู่ยุคอัจฉริยะด้วย ADO, AI, และการควบคุมแบบอัตโนมัติ

การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลด้วยการทำ digital transformation หรือที่เรียกกันในวงการว่า digital oilfield ไม่ใช่แค่ทางเลือกที่ถ้าทำแล้วก็ดีอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพื่อความอยู่รอดและการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนมหาศาล

automated drilling optimization (ADO) ได้พิสูจน์แล้วว่าคือกลไกสำคัญที่สามารถเปลี่ยนการขุดเจาะ ที่เคยต้องอิงกับประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัวของวิศวกร ให้กลายเป็นกระบวนการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง การใช้ AI และ machine learning มาวิเคราะห์และสั่งการแบบเรียลไทม์ ช่วยให้บริษัทต่างๆ บรรลุเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือ เจาะได้เร็วขึ้น ลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล และปลอดภัยมากขึ้น สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ชัดเจนในยุคที่ต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญ

SP_202511_[XX] - Automated O&G-TH_06

ที่ Seven Peak เราเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และ intelligent apps ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ strategic partner เพื่อช่วยคุณสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับการทำ ADO ไม่ว่าจะเป็น

  • สร้างระบบรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์หน้างาน
  • พัฒนา AI และ machine learning models เพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์
  • ออกแบบแดชบอร์ดและระบบควบคุมที่วิศวกรและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถใช้งานได้ง่าย

หากองค์กรของคุณพร้อมที่จะก้าวสู่ยุค digital oilfield และปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของการเจาะด้วย ADO ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราที่ Seven Peak วันนี้ เพื่อค้นหาโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อความสำเร็จของคุณโดยเฉพาะ


คุณมีโปรเจกต์ที่อยากทำใช่ไหม?
เราจะช่วยสร้างเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องใช้ให้คุณเอง
ติดต่อเรา