แชร์เรื่องนี้
4 บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่คุณอาจไม่รู้ว่ามีจุดกำเนิดในไทย
โดย Seven Peaks เมื่อ 5 พ.ย. 2025, 13:59:53
คุณอาจกำลังใช้ Agoda จองโรงแรมสำหรับทริปหน้า จ่ายเงินค่ากาแฟด้วยระบบเบื้องหลังของ Omise หรือกำลังเลื่อนดูเสื้อผ้าคอลเลกชันใหม่ในแอป Pomelo และใช้ Eatigo จองร้านอาหาร
ดิจิทัลโปรดักส์เหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว แต่ถ้าบอกว่า บริษัทเทคโนโลยีระดับภูมิภาคและระดับโลกเหล่านี้ มีจุดกำเนิดอยู่ที่กรุงเทพมหานคร จะเชื่อหรือไม่ว่าสิ่งนี้เป็นความจริง
ความจริงคือ ประเทศไทยเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยูนิคอร์น และบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากมาย ที่น่าสนใจคือหลายบริษัทก่อตั้งโดยชาวต่างชาติซึ่งมองเห็นโอกาสและเลือกประเทศไทยเป็นบ้านหลังแรกในการเริ่มต้นธุรกิจ บทความนี้จะพาไปสำรวจเรื่องราวของ 4 บริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง ที่เริ่มต้นจากสตาร์ทอัพไทย จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
1. Agoda ยักษ์ใหญ่ OTA ที่คนไทยคิดว่าเป็นแบรนด์ต่างชาติ
Agoda คือแพลตฟอร์มจองโรงแรมและบริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ หรือ online travel agency (OTA) ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ให้บริการจองห้องพัก ตั๋วเครื่องบิน และกิจกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก ปัจจุบัน Agoda เป็นบริษัทระดับโลกในเครือ Booking Holdings แต่มีเรื่องราวการก่อตั้งที่ผูกพันกับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน
เมื่อพูดถึง Agoda ภาพแรกที่หลายคนนึกถึงคือบริษัทแม่อย่าง Booking Holdings ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า Agoda เป็นบริษัทอเมริกัน แต่ความจริงคือรากฐานของ Agoda เริ่มต้นในไทยตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2540 โดยผู้ประกอบการชาวอเมริกัน Michael Kenny ที่มองเห็นช่องว่างมหาศาลของตลาดการจองโรงแรมออนไลน์ในเอเชีย โดยเฉพาะในไทยที่การท่องเที่ยวเริ่มบูม
พวกเขาใช้กรุงเทพฯ และภูเก็ตเป็นฐานทัพในการสร้างเครือข่ายโรงแรม ในยุคที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีว่า foreigner can start a successful business in thailand จุดเปลี่ยนสำคัญคือในปีพ.ศ. 2550 เมื่อ priceline.com เข้ามาซื้อกิจการ Agoda ไป หลังจากการควบรวมกิจการ Agoda ก็ขยายไปทั่วโลกภายใต้แบรนด์ของบริษัทแม่ในสหรัฐฯ ภาพลักษณ์ความเป็นสตาร์ทอัพไทยจึงค่อยๆ จางหายไปตามเวลา แต่หัวใจและศูนย์กลางการดำเนินงาน global operations ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของ Agoda ยังคงอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจทั่วโลก โดยตัวเลขทางธุรกิจของบริษัท อโกดา เซอร์วิสเซส จำกัด (นิติบุคคลในไทย) ก็ยืนยันถึงขนาดการดำเนินงานระดับมหภาค โดยมีรายได้รวมสำหรับปี 2567 สูงถึง 14,154,325,078 บาท

2. Omise ยูนิคอร์นสัญชาติไทยตัวจริง
Omise คือเทคโนโลยีรับชำระเงินออนไลน์ที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถรับชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งบัตรเครดิต e-wallets และ PromptPay รวมถึงมีเครื่องมือและโซลูชันทางการเงินระดับภูมิภาค ปัจจุบันเป็นยูนิคอร์นไทยที่ประสบความสำเร็จที่สุดรายหนึ่ง
เมื่อมีคนถามว่า unicorn startup in Thailand ชื่อของ Omise มักจะเป็นคำตอบแรกๆ บริษัทนี้ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2556 โดย Jun Hasegawa ชาวญี่ปุ่น และ Ezra Don Harinsut คนไทย พวกเขาเจอปัญหาของระบบรับชำระเงินออนไลน์ในไทยที่ทั้งยุ่งยากและล้าสมัย จึงสร้าง Omise ขึ้นมาด้วยเป้าหมายคือ ทำให้การรับจ่ายเงินออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ด้วยระบบ API ที่เป็นมิตรกับ developer
สิ่งที่ทำให้ Omise ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วคือการสร้างระบบ API ที่มีความยืดหยุ่นและมีเอกสารครบถ้วน จนถูกขนานนามว่าเป็น Stripe แห่งเอเชีย เมื่อบริษัทเติบโตและระดมทุนได้มหาศาล พวกเขาจึงรีแบรนด์บริษัทแม่เป็น Opn ในปีพ.ศ. 2563 เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่าแค่ payment gateway และการขยายตลาดไปทั่วเอเชีย การรีแบรนด์นี้ทำให้ภาพลักษณ์กลายเป็นระดับภูมิภาคเต็มตัว จนหลายคนลืมไปว่านี่คือหนึ่งใน successful Thai startups ที่มีจุดกำเนิดในกรุงเทพฯ ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนได้จากตัวเลขทางบัญชีของ บริษัท โอมิเซะ จำกัด (นิติบุคคลในไทย) ที่มีรายได้รวมสำหรับปี 2567 สูงถึง 1,347,368,881 บาท

3. Pomelo แบรนด์ fashion tech ที่คนนึกว่าแบรนด์เกาหลี
Pomelo คือบริษัท fashion tech ที่ดำเนินการแพลตฟอร์ม e-commerce แฟชั่นและไลฟ์สไตล์แบบ omnichannel โดยนำเสนอสินค้าแฟชั่นของตัวเองและแบรนด์อื่นๆ ผ่านแอปพลิเคชันและหน้าร้าน physical store ด้วยสไตล์ของแบรนด์และแอปที่ทันสมัย หลายคนจึงเข้าใจผิดว่า Pomelo เป็นแบรนด์ fast fashion จากเกาหลีหรือสิงคโปร์ แต่ Pomelo คือบริษัท fashion tech ที่มีจุดกำเนิดและสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ
Pomelo ก่อตั้งในปี 2013 โดย David Jou ชาวเกาหลี-อเมริกัน เขาเลือกกรุงเทพฯ เป็นฐานทัพ เพราะไทยมีจุดแข็งด้านอุตสาหกรรมแฟชั่น โลจิสติกส์ และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค
สิ่งที่ทำให้ Pomelo แตกต่างคือเทคโนโลยี พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกโมเดล Omnichannel อย่างจริงจัง ด้วยบริการ tap try buy ที่ให้ลูกค้าสั่งของออนไลน์ ลองสินค้าที่หน้าร้านหรือที่บ้านได้ฟรี และจ่ายเงินเฉพาะรายการที่ชอบเท่านั้น ซึ่งช่วยแก้ปัญหาคลาสสิกของการซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ การขยายตลาดอย่างต่อเนื่องนี้ส่งผลให้ บริษัท โพเมโล แฟชั่น จำกัด (นิติบุคคลในไทย) มีรายได้รวมสำหรับปี 2567 สูงถึง 1,117,618,899 บาท

4. Eatigo สตาร์ทอัพที่เปลี่ยนโต๊ะว่างให้เป็นเงิน
Eatigo เป็นแอปจองร้านอาหารที่ใช้แนวคิด yield management เพื่อบริหารจัดการโต๊ะว่างในร้านอาหาร โดยการให้ส่วนลดที่แตกต่างกันตามช่วงเวลาการจอง (time-based discounts) Eatigo คือแอปจองร้านอาหารที่มาพร้อมส่วนลดตามช่วงเวลาที่หลายคนคุ้นเคย ความสำเร็จและการขยายตัวอย่างรวดเร็วไปทั่วภูมิภาค โดยเฉพาะในสิงคโปร์และฮ่องกง จนทำให้หลายคนคิดว่านี่คือแบรนด์จากสิงคโปร์
Eatigo ก่อตั้งในกรุงเทพฯ โดยทีม co-founder ทั้งคนไทยและต่างชาติ ที่มองเห็นปัญหาง่ายๆ แต่มีช่องว่างในการพัฒนาของธุรกิจร้านอาหาร นั่นคือโต๊ะว่างในช่วงเวลา off-peak ที่ร้านยังคงเปิด แต่ไม่มีลูกค้า Eatigo นำแนวคิด Yield Management แบบเดียวกับที่สายการบินใช้ มาใช้กับร้านอาหาร โดยเสนอส่วนลดที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลา ยิ่งช่วงเวลาที่คนน้อย ส่วนลดยิ่งสูง โมเดลนี้ win-win ทั้งลูกค้าและร้านอาหาร และถูกพิสูจน์ครั้งแรกในตลาดร้านอาหารที่แข่งขันสูงของกรุงเทพฯ ก่อนจะได้รับการลงทุนจาก tripadvisor และขยายไปทั่วเอเชีย ปัจจุบัน บริษัท อีททิโก (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงเป็นผู้นำตลาด โดยมีรายได้รวมสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 17,365,790.49 บาท

จากแรงบันดาลใจสู่ "ผู้สร้าง" ตัวจริง
เรื่องราวของ Agoda Omise Pomelo และ Eatigo พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Thailand tech ecosystem นั้นแข็งแกร่ง และเป็นจุดกำเนิดของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกได้จริง พวกเขาคือข้อพิสูจน์ว่า ชาวต่างชาติสามารถเริ่มต้นธุรกิจเทคฯ ในไทย และประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้คนไทย
แต่อะไรคือสิ่งที่บริษัทเหล่านี้มีร่วมกัน คำตอบคือ พวกเขาไม่ได้มีแค่ไอเดียธุรกิจที่ดี แต่พวกเขาสร้างดิจิทัลโปรดักส์ที่ยอดเยี่ยม นี่คือหัวใจของความสำเร็จ และนี่คือความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ทุกคน เมื่อความท้าทายนี้ต้องการความเชี่ยวชาญจากภายนอก นี่คือจุดที่ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Seven Peaks Software เข้ามามีบทบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา ร่วมพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกับคุณ
ในฐานะหนึ่งในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์และที่ปรึกษาด้านดิจิทัลชั้นนำในกรุงเทพฯ Seven Peaks Software คือพลังและมันสมองที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทชั้นนำมากมาย ที่ต้องการสร้างดิจิทัลโปรดักส์ระดับเวิลด์คลาส เราเชี่ยวชาญด้าน การออกแบบ ux/ui การพัฒนาแอปพลิเคชัน mobile & web และการวางโครงสร้างระบบ scalable cloud ที่ทันสมัย บทเรียนจาก 4 ยักษ์ใหญ่คือ ไอเดียต้องมาพร้อมกับการลงมือสร้าง และสำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ฝันจะก้าวไปสู่เวทีโลก การมีพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญและเข้าใจตลาดอย่าง Seven Peaks ก็อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เหมือนที่รุ่นพี่ทั้ง 4 บริษัทได้พิสูจน์ให้เราเห็นมาแล้ว
หากคุณมีไอเดียที่ต้องการเปลี่ยนให้เป็นดิจิทัลโปรดักส์ระดับโลก หรือมองหาผู้เชี่ยวชาญด้าน digital transformation ที่เข้าใจตลาดไทย สามารถติดต่อเราเพื่อขอรับคำปรึกษาได้ทันที
แชร์เรื่องนี้
- ตุลาคม 2025 (5)
- กันยายน 2025 (12)
- สิงหาคม 2025 (6)
- กรกฎาคม 2025 (1)
- มีนาคม 2025 (3)
- กุมภาพันธ์ 2025 (6)
- พฤศจิกายน 2024 (1)
- สิงหาคม 2024 (1)
- กรกฎาคม 2024 (2)
- มีนาคม 2024 (5)
- กุมภาพันธ์ 2024 (5)
- มกราคม 2024 (14)
- ธันวาคม 2023 (4)
- พฤศจิกายน 2023 (9)
- ตุลาคม 2023 (13)
- กันยายน 2023 (7)
- กรกฎาคม 2023 (4)
- มิถุนายน 2023 (3)
- พฤษภาคม 2023 (3)
- เมษายน 2023 (1)
- มีนาคม 2023 (1)
- พฤศจิกายน 2022 (1)
- สิงหาคม 2022 (4)
- กรกฎาคม 2022 (1)
- มิถุนายน 2022 (3)
- เมษายน 2022 (6)
- มีนาคม 2022 (3)
- กุมภาพันธ์ 2022 (6)
- มกราคม 2022 (3)
- ธันวาคม 2021 (2)
- ตุลาคม 2021 (1)
- กันยายน 2021 (1)
- สิงหาคม 2021 (3)
- กรกฎาคม 2021 (1)
- มิถุนายน 2021 (2)
- พฤษภาคม 2021 (1)
- มีนาคม 2021 (4)
- กุมภาพันธ์ 2021 (4)
- ธันวาคม 2020 (3)
- พฤศจิกายน 2020 (1)
- มิถุนายน 2020 (1)
- เมษายน 2020 (1)