บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

ปรับใช้ Product Mindset เพื่อความสำเร็จทางดิจิทัล

5 key principles

ในปัจจุบันนั้นภูมิทัศน์ทางดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาและการจัดการซอฟต์แวร์ที่คำนึงถึงโปรดักต์เป็นศูนย์กลาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยัมีหลายองค์กรที่คิดเอาเองว่า การเริ่มต้นด้านดิจิทัลเป็นเพียงโปรเจกต์ที่ทำขึ้นในระยะสั้นๆ เท่านั้น ขณะเดียวกันแนวทางนี้ยังไม่สามารถตอบสนองต่ออุปสรรคและความต้องการเฉพาะที่เกิดจากโปรดักต์ดิจิทัลได้ดีนัก

เพื่อให้ digital product ที่ถูกสร้างขึ้นมาสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ในระยะยาว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดและจำไว้เสมอว่าโปรดักต์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมากกว่าแค่โปรดักต์ธรรมดาๆ

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าเหตุใดแนวทางที่เน้นโปรเจกต์เป็นศูนย์กลางจึงไม่ประสบความสำเร็จ และเจาะลึกเกี่ยวกับความแตกต่างที่สำคัญระหว่างแนวคิดที่เน้นโปรเจกต์เป็นศูนย์กลางและโปรดักต์เป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ เราจะมอบคำแนะนำเรื่องการเปลี่ยนวิธีคิดที่คุณสามารถนำไปใช้ได้จริงเพื่อสร้างซอฟต์แวร์ที่ดีขึ้นในอนาคต

 

ทำไมแนวทางที่เน้นโปรเจกต์เป็นศูนย์กลางถึงเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง

แนวทางที่เน้นโปรเจกต์เป็นศูนย์กลางมักนิยมใช้กับการทำโปรเจกต์พัฒนา digital product โดยวิธีการนี้มักมีข้อกำหนดที่ถูกตั้งเอาไว้ล่วงหน้า มีระยะเวลาที่แน่นอน และมีเส้นตายในการส่งมอบงานที่ชัดเจน แม้ว่าแนวทางนี้อาจเหมาะสำหรับโปรเจกต์ทั่วไป แต่ไม่ได้เหมาะสมกับธรรมชาติของ โปรดักต์ดิจิทัลที่มักเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่โปรดักต์นั้นๆ จำเป็นต้องมีการทำซ้ำ ดัดแปลง และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

แนวคิดที่เน้นโปรเจกต์เป็นศูนย์กลางนั้นเป็นสิ่งที่ขัดขวางการรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้, การตอบสนองต่อความผันผวนของตลาด, และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล จึงอาจกล่าวได้ว่ามุมมองที่ไม่เปิดกว้างนี้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อความยั่งยืนและความสำเร็จของโปรดักต์ดิจิทัลในระยะยาว

 

แนวคิดที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลาง

การปรับใช้แนวคิดที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลางจะช่วยเปลี่ยนวิธีที่เราโฟกัสกับสิ่งต่างๆ ไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงโปรดักต์ดิจิทัลให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและดัชนีชี้วัดความสำเร็จ (KPI)

แนวคิดนี้เกี่ยวข้องกับการติดตามความคืบหน้า, การตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล, และการจัดลำดับความสำคัญของความพึงพอใจของผู้ใช้เหนือข้อกำหนดที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ซึ่งแตกต่างจากแนวทางที่เน้นโปรเจกต์เป็นศูนย์กลาง โดยแนวคิดที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลางมีหลักการพื้นฐานดังต่อไปนี้

1. การทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง

การทำซ้ำและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องคือสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จของ digital product การใช้วิธีทำซ้ำๆ จะช่วยให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง, การรวบรวมความคิดเห็นของผู้ใช้, และการปรับโดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกตามเวลาจริง ซึ่งการทำซ้ำๆ นี้ช่วยให้โปรดักต์ดิจิทัลสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ใช้, การเปลี่ยนแปลงของตลาด, และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างยืดหยุ่น

2. มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง

เป้าหมายหลักของโปรดักต์ดิจิทัลคือการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกันและมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่พวกเขา แนวคิดที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลางให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจพฤติกรรม, ความต้องการ, และปัญหาของผู้ใช้ผ่านการวิจัยผู้ใช้, การทดสอบการใช้งาน, และการวิเคราะห์ความคิดเห็น ด้วยการวางผู้ใช้เป็นแกนหลักในการพัฒนาโปรดักต์ ส่งผลให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างโปรดักต์ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จและตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้นเป้าหมายหลักของโปรดักต์ดิจิทัลคือการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกันและมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่พวกเขา แนวคิดที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลางให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจพฤติกรรม, ความต้องการ, และปัญหาของผู้ใช้ผ่านการวิจัยผู้ใช้, การทดสอบการใช้งาน, และการวิเคราะห์ความคิดเห็น ด้วยการวางผู้ใช้เป็นแกนหลักในการพัฒนาโปรดักต์ ส่งผลให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างโปรดักต์ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จและตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น

3. การทำงานร่วมกันข้ามสายงาน

การทำงานร่วมกันข้ามสายงานมีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ digital product ที่ประสบความสำเร็จ แนวทางที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลางนี้ช่วยให้ product manager, designer, developer, นักการตลาด และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนอื่นๆ มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น โดยสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันนี้ช่วยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสื่อสารกันได้เต็มที่ เข้าใจวัตถุประสงค์เดียวกัน และมีความเป็นเจ้าของร่วมกัน เพื่อช่วยให้เกิดการพัฒนาโปรดักต์ดิจิทัลที่นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

4. ตัวชี้วัดที่เน้นผลลัพธ์

การจัดการโปรเจกต์แบบดั้งเดิมมุ่งเน้นไปที่การบรรลุ milestone และส่งมอบโปรเจกต์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในทางตรงกันข้าม แนวทางที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลางจะให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ซึ่งวัด ผลกระทบที่แท้จริงต่อเป้าหมายทางธุรกิจและความพึงพอใจของผู้ใช้. ด้วยการกำหนด KPI ให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น การมีส่วนร่วมของผู้ใช้, รายได้ที่เกิดขึ้น, conversion rate, หรือการรักษาลูกค้าเอาไว้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยประเมินประสิทธิภาพของโปรดักต์และขับเคลื่อนการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก

5. แนวคิดและวิธีการทำงานแบบ Agile

ความคล่องตัวเป็นหลักการสำคัญในการพัฒนาและจัดการโปรดักต์ดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จ การประยุกต์ใช้แนวคิด Agile ที่คล่องตัวจะให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น, การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง, และความสามารถในการปรับตัว โดยกระบวนการแบบ Agile เช่น Scrum หรือ Kanban ช่วยส่งเสริมการวางแผนที่สามารถปรับเปลี่ยนได้, การพัฒนาซ้ำ, และการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แนวทางการทำงานแบบ Agile นี้ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว

 
 

บทสรุปทิ้งท้าย

การมองว่า digital product เป็นเพียงโปรเจกต์ที่มีการกำหนดระยะเวลาทำงานและวันส่งมอบที่ชัดเจน จะคือสิ่งที่บั่นทอนศักยภาพของความสำเร็จและโอกาสที่โปรดักต์นั้นๆ จะเติบโตในระยะยาว

เพื่อปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของโปรดักต์ดิจิทัล องค์กรต่างๆ ควรใช้แนวคิดที่เน้นโปรดักต์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีการทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง, การจัดลำดับความสำคัญของผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง, ส่งเสริมการทำงานร่วมกันข้ามสายงาน, การมุ่งเน้นไปที่ตัวชี้วัดที่เน้นผลลัพธ์ และนำแนวทาง Agile ที่คล่องตัวมาใช้

การเปลี่ยนจากแนวทางที่เน้นโปรเจกต์เป็นศูนย์กลางไปสู่โปรดักต์เป็นศูนย์กลาง จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างประสบการณ์พิเศษที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

คุณ Tormod Baustad Benonisen, Head of Product ที่ Seven Peaks

นักคิดค้นและผู้นำด้านการพัฒนาโปรดักต์ดิจิทัลที่มีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี ผู้ที่ทำงานโดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างธุรกิจ เทคโนโลยี และการออกแบบอยู่เสมอ ซึ่งเคยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการมามากกว่า 20 โปรเจกต์ และคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ

Tormod-Benonisen-Head-of-Product-at-Seven-Peaks-Software

มีโปรเจกต์ในใจหรือยัง?
ให้เราช่วยสร้างเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องใช้ให้คุณไหม
ติดต่อเรา