บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

product growth กลยุทธ์การตลาดที่ผลักดันให้ product เติบโตอย่างยั่งยืน

SPS- What is InsurTech_01 Herobanner (12)ไม่ว่าแบรนด์ไหนต่างก็ต่างการเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า ซึ่งการที่จะทำให้ลูกค้าชื่นชอบแบรนด์ได้ย่อมมีที่มาหลักๆ จากโปรดักต์ที่ประสบความสำเร็จ แต่การจะทำให้โปรดักต์ประสบความสำเร็จจนอยู่ในใจลูกค้าได้นานๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งกลยุทธ์ product growth เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยได้ บทความนี้จะทำให้คุณได้เข้าใจถึงความหมายของ product growth และวิธีที่จะทำให้โปรดักต์ของคุณเติบโตได้ด้วยสิ่งนี้

product growth คืออะไร

product growth เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะครอบคลุมทุกกระบวนการตั้งแต่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไปจนถึงการขยายฐานลูกค้าเพื่อให้โปรดักต์เติบโตอย่างยั่งยืน โดยประกอบด้วย

  1. Acquisition คือ การทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจโปรดักต์ เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำการตลาดดิจิทัล ซึ่งเริ่มด้วยการสร้าง brand awareness และทำให้ผู้ใช้ไว้วางใจในโปรดักต์ของคุณ
  2. Activation คือ การทำให้ผู้ใช้มีการใช้งานโปรดักต์อย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้เกิด engagement เพราะลำพังการเข้ามาใช้งานแค่ไม่กี่ครั้งแล้วไม่มีการกลับมาใช้ซ้ำนั้นไม่สามารถสร้าง product growth ได้อย่างเพียงพอ
  3. Retention คือการรับฟีดแบ็กจากผู้ใช้และทำให้โปรดักต์ตรงตามความคาดหวังผู้ใช้มากที่สุด รวมถึงกระตุ้นให้พวกเขากลับมาใช้งานซ้ำ
  4. Revenue คือการเปลี่ยนให้ผู้ใช้กลายมาเป็นลูกค้าที่ควักกระเป๋าจ่ายจริง เพื่อให้แบรนด์มีรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งการที่จะทำแบบนั้นได้ก็ต้องวางแผนให้ดีว่าลูกค้าจะยอมจ่ายด้วยเหตุผลใดและเมื่อไร เพื่อให้ customer journey มีความเหมาะสมมากที่สุดและได้ conversion rate ตามที่ต้องการ
  5. Expand คือการเพิ่มรายได้จากฐานลูกค้าเดิมที่มี ไม่ว่าจะเป็นการ upsell, cross-sell รวมถึงการทำโปรโมชันและแคมเปญส่งเสริมการขายอื่นๆ
  6. Referral คือการทำให้ลูกค้าบอกต่อเกี่ยวกับโปรดักต์ ซึ่งเป็นการโปรโมตที่ทรงพลัง เมื่อผนวกรวมกับกลยุทธ์การตลาด เช่น loyalty program ก็จะยิ่งทำให้กลยุทธ์ใช้ได้ผลยิ่งขึ้น

จากคำแนะนำของ HubSpot การสร้าง product growth ต้องใช้การลงทุนลงแรงอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในส่วนของทีมพัฒนาโปรดักต์และ engineer ที่อยู่ในองค์กรผู้ให้บริการ SaaS (Software as a Service) ทั้งนี้  Carlos González de Villaumbrosia ผู้เป็น CEO ของ Product School ยังมองว่าหัวใจสำคัญในการสร้าง  product growth ก็คือการสร้างคุณค่าที่แท้จริงเพื่อให้ผู้ใช้พึงพอใจในโปรดักต์และตระหนักว่าคุณใส่ใจความต้องการพวกเขานั่นเอง

SPS_Product Growth_02-Diagram

product growth มีประโยชน์อย่างไร

หลังจากที่เข้าใจถึงหลักการของกลยุทธ์ product growth แล้ว คราวนี้มาดูกันว่า มันมีประโยชน์อย่างไรต่อโปรดักต์และการสร้างแบรนด์บ้าง

  • ตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น เนื่องจากกลยุทธ์การตลาดนั้นจำเป็นต้องตัดสินใจด้วยข้อมูล ซึ่งการวางกลยุทธ์ product growth ช่วยให้สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น
  • ด้วยการวางแผนงานเพื่อพัฒนาโปรดักต์อย่างเป็นระบบ ทำให้ทีมงานสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • เมื่อมีข้อมูลสนับสนุนและแผนงานที่ครอบคลุมทุกมิติของโปรดักต์ ทีมก็สามารถสร้างโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง
  • ผู้ใช้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น พึงพอใจมากขึ้น และกลับมาใช้งานอย่างต่อเนื่องตามที่ได้วางแผนไว้
  • เมื่อโปรดักต์ประสบความสำเร็จ ย่อมทำให้แบรนด์เติบโตอย่างรวดเร็วและยั่งยืน

product growth แตกต่างจาก product-led growth (PLG)อย่างไร

ในวงการ digital marketing มีอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ชื่อใกล้เคียงกันว่า product-led growth หรือ PLG ซึ่งแม้จะมีความคล้ายคลึงกันอยู่ แต่ที่จริงแล้วสองสิ่งนี้แตกต่างกัน โดย product growth จะเป็นหลักการกว้างๆ ในการพัฒนาโปรดักต์ระยะยาว เพื่อให้โปรดักต์สามารถสร้างคุณค่าให้แก่แบรนด์ได้อย่างแท้จริง

ในขณะที่ product-led growth จะเน้นการทำให้โปรดักต์เป็นเครื่องมือหลักในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้โปรดักต์ใช้งานง่าย สร้างประสบการณ์อันยอดเยี่ยม เป็นมิตรมากที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้ชื่นชอบและบอกต่อแบบปากต่อปาก โดยไม่ต้องให้ทีมงานสร้างแคมเปญอื่นๆ เพื่อช่วยส่งเสริมโปรดักต์นั้นๆ พูดง่ายๆ คือให้โปรดักต์ขายได้ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม product-led growth ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ product growth ได้เช่นกัน เนื่องจากช่วยส่งเสริมให้โปรดักต์มีประสิทธิภาพที่ดีและมอบ UX ที่น่าประทับใจให้ผู้ใช้ได้

แนวทางการสร้าง product growth

แนวทางคร่าวๆ ในการสร้างกลยุทธ์ product growth ได้แก่

  1. เลือกว่าต้องการให้แบรนด์เติบโตในด้านไหน เช่น เพิ่มโปรดักต์ใหม่ เพิ่มการใช้งานโปรดักต์ เพิ่มรายได้ ขยายฐานลูกค้า เป็นต้น
  2. ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมและนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพ สามารถนำมาช่วยในการตัดสินใจวางแผนงานได้
  3. ตั้งเป้าและกำหนด KPI เพื่อให้มีความชัดเจนในการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายและสามารถวัดผลได้
  4. วางแผนงานและวางโรดแม็ป การกำหนดโรดแม็ปช่วยให้มองเห็นเส้นทางในการพัฒนาโปรดักต์ชัดเจนยิ่งขึ้น
  5. เลือกเครื่องมือที่จะใช้ในการพัฒนาโปรดักต์และทำการตลาด เนื่องจากมีเครื่องมือทันสมัยมากมายในการช่วยวิเคราะห์ พัฒนา และทำการตลาดให้กับโปรดักต์ จึงต้องพิจารณาให้ดีว่าเครื่องมือไหนมีความเหมาะสมมากที่สุดทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
  6. ลงมือตามแผนที่วางไว้
  7. ทำการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าโปรดักต์มีคุณภาพมากพอที่จะออกสู่ตลาด
  8. ติดตาม วัดผล และปรับปรุงโปรดักต์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ตัวอย่างกลยุทธ์การสร้าง product growth ที่แบรนด์ดังใช้จริง

  • Spotify มีการรวบรวมเพลงที่ผู้ใช้ชอบออกเป็น playlist หลากหลายให้เลือกฟัง แถมตอนสิ้นปียังมี Spotify Wrap ที่สรุปการใช้งานทั้งปีให้ดูและแชร์กับเพื่อนๆ อีกด้วย ได้ใจทั้งผู้ใช้เก่าและดึงดูดผู้ใช้ใหม่ไปในตัว
  • Dropbox กระตุ้นให้ผู้ใช้แนะนำเพื่อนให้มาสมัครเพื่อรับพื้นที่ในการใช้งานเพิ่มขึ้น
  • GitHub เพิ่มฐานผู้ใช้ด้วยการเปิด repository แบบโอเพนซอร์สให้นักพัฒนาทุกคนสามารถอัปโหลดโปรเจกต์ที่ทำอยู่ขึ้นไปเก็บไว้ โดยที่คนอื่นสามารถนำไปใช้งาน หรือพัฒนาต่อยอดได้อย่างเสรี นอกจากนี้นักพัฒนายังสามารถทำ version control ซึ่งเป็นการบริหารจัดการเวอร์ชันของโปรดักต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Duolingo มีการใช้ gamification เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้รู้สึกสนุก อยากใช้งานแอปพลิเคชันไปเรื่อยๆ เพื่อเก็บเลเวลและเลื่อนขั้น นอกจากนี้ยังมีคอมมูนิตี้ของผู้ใช้ ซึ่งนอกจากจะมีระบบลีกให้เกิดการแข่งขันและอวดความสามารถกันแล้ว ยังมีกลุ่มเพื่อให้ผู้ใช้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ด้วย

ตัวอย่างเครื่องมือสำหรับช่วยสร้าง product growth SPS_Product Growth_03-logo

  • Mixpanel เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดที่สามารถหา insight ได้ละเอียดว่าผู้ใช้มีพฤติกรรมแบบไหนและโต้ตอบกับโปรดักต์อย่างไร รวมถึงการช่วยปรับปรุง conversion, ทำ user segmentation, A/B testing และอื่นๆ อีกมากมายได้ ทำให้รู้แนวทางในการพัฒนาโปรดักต์ให้ตรงความต้องการผู้ใช้มากขึ้น
  • AppsFlyer เครื่องมือวิเคราะห์ที่มาของผู้ใช้ว่ามาจากแหล่งใดและมีคุณภาพมากแค่ไหนได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้แบรนด์รู้ว่าควรโฟกัสการตลาดกับแพลตฟอร์มไหนมากที่สุด ทั้งยังสามารถทำ deep linking ได้อีกด้วย
  • MoEngage เครื่องมือสำหรับบริหารจัดการ engagement แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น push notification, SMS, personalization, segmentation, targeting, รวมถึงข้อมูลวิเคราะห์ เพื่อสร้าง engagement กับผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น

พัฒนาโปรดักต์ให้เติบโตไปกับเรา

การวางกลยุทธ์เพื่อสร้าง product growth นั้น นอกจากต้องมีการวางแผนเป็นขั้นตอนอย่างละเอียดรอบคอบ และใช้เครื่องมือทันสมัยช่วยเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ประสบการณ์ในการพัฒนาโปรดักต์ก็เป็นอีกส่วนประกอบที่สำคัญที่จะทำให้โปรดักต์ประสบความสำเร็จ ปรึกษาเราเพื่อช่วยคุณวาง product growth ได้แล้ววันนี้ เพราะเราคือที่ปรึกษาด้าน digital transformation ที่แบรนด์ชั้นนำทั่วโลกไว้วางใจ