คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไม ChatGPT ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น AI chatbot ยอดฮิต ที่พวกเรานิยมใช้งานกันอยู่ในขณะนี้ถึงสามารถตอบคำถามต่างๆ ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไปได้อย่างเป็นธรรมชาติจนบางครั้งแอบนึกว่าเหมือนมีเพื่อนหรือคนสนิทมาตอบเอง ซึ่ง LLM (large language model) ก็คือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความน่าอัศจรรย์ของ Generative AI อย่าง ChatGPT เพราะมีการทำงานคล้ายกับสมองของมนุษย์ อย่างที่คุณอาจไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริงมาก่อน
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจถึง large language model ว่ามีความสำคัญอย่างไรกับผู้คนตลอดจนบรรดาธุรกิจต่างๆ ในยุคที่ data ได้กลายมาเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่าที่ทุกฝ่ายต้องการใช้ประโยชน์จากมันให้มากที่สุด
LLM (large language model) หรือ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ คือ โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการฝึกฝนให้เข้าใจภาษาของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้ง ลองคิดภาพว่ามันเป็นเหมือนเด็กหัวดีคนหนึ่งที่ชอบอ่านหนังสือเยอะๆ พออ่านมากเข้าก็เริ่มเข้าใจภาษาและโครงสร้างของประโยคได้ด้วยตัวเอง และในที่สุดก็สามารถนำความรู้ที่ได้มาสร้างประโยคใหม่ๆ วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์
LLM ไม่เพียงแต่จะสร้างข้อความหรือแปลภาษาได้ถูกต้องตามหลักภาษาต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาตัวเองแบบต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้สื่อสารกับมนุษย์ผู้ป้อนคำสั่งได้ราวกับเป็นเพื่อนรู้ใจคนหนึ่ง โดยตัวอย่างที่ช่วยให้คุณเข้าใจเรื่อง LLM ได้ง่ายที่สุดก็คือ ChatGPT, Bard, และ Gemini ที่สามารถตอบคำถามและสร้างข้อความได้หลากหลายรูปแบบจนน่าทึ่ง ลองคิดดูว่าชีวิตเราจะดีขึ้นขนาดไหนถ้ามีเพื่อน AI ที่เป็นเหมือนที่ปรึกษาส่วนตัวไปไหนด้วยกันในทุกที่
ซึ่งแท้จริงแล้ว LLM ถือเป็นสาขาหนึ่งของ AI ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing: NLP) ที่มีขึ้นเพื่อทำความเข้าใจภาษาของมนุษย์ และสื่อสารออกไปให้เหมือนหรือคล้ายกับคำพูดหรือประโยคที่ผู้คนใช้กันในชีวิตประจำวันให้มากที่สุดนั่นเอง
ข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยโดย GII องค์กรวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก ระบุว่า ตลาดนี้จะมีมูลค่าถึง 105,545 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในทวีปอเมริกาเหนือภายในปี 2030 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่สูงถึง 72.17% เลยทีเดียว
ในตอนนี้เราสามารถแบ่ง LLM (large language model) ได้หลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละชนิดจะมีจุดเด่นและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เกณฑ์ใดบ้างในการแบ่งประเภทของ LLM และเพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น เราจะอธิบายให้คุณได้เข้าใจดังนี้
คุณคงรู้ถึงวิธีการแบ่งประเภทของ large language model กันไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะไปดูว่า LLM ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้นมีตัวไหนบ้าง
ไม่มีใครไม่รู้จัก LLM ที่มีชื่อว่า GPT ซึ่งพัฒนาโดย OpenAI และเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากความสามารถในการสร้างข้อความที่เป็นธรรมชาติ และยังเข้าใจคำสั่งต่างๆ ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไปเป็นอย่างดี แน่นอนว่าการจะใช้ LLM ตัวนี้คุณจะต้องใช้แอปฯ หรือต่อผ่าน API ต่างๆ เพื่อเข้าถึง GPT
large language model อย่าง BERT AI ถูกพัฒนาโดย Google และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2018 เพื่อทำความเข้าใจภาษาที่มนุษย์อย่างพวกเราใช้กันอยู่ให้ถ่องแท้มากขึ้น หรือที่เรียกว่า natural language processing (NLP) นั่นเอง
Meta เองไม่ได้อยากตกขบวนการเป็นเจ้าแห่ง LLM พวกเขาจึงส่ง LLaMA 3.1 ที่สามารถประมวลผลข้อความ ภาษา หรือสิ่งต่างๆ ที่มีความซับซ้อนได้มากขึ้น แถมยังประมวลผลข้อความที่มีความยาวได้สูงสุดถึง 128,000 โทเคน ที่สำคัญคือรองรับภาษาไทยอีกด้วย จึงทำให้นำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่การแปลภาษา การสรุปเนื้อหา ไปจนถึงการสร้างเนื้อหาใหม่
ปัจจุบัน BLOOM คือ LLM ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีพารามิเตอร์มากถึง 176 พันล้านตัว ที่ถูกฝึกฝนบนแพลตฟอร์ม NVIDIA AI เพื่อรองรับการประมวลผลข้อความใน 46 ภาษา ทั้งยังสามารถใช้ในงานที่เกี่ยวข้องกับข้อความได้หลายประเภท เช่น การสร้างข้อความ, การเติมข้อความ, การสรุป การจัดกลุ่ม, การจำแนกประเภท, การค้นหาเชิงความหมาย, และการแปลภาษา
ในวันที่ AI หรือการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก SCB 10X บริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำของไทย จึงได้พัฒนา “ไต้ฝุ่น” (Typhoon) หรือ large language model ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะ แถมยังมีประสิทธิภาพเทียบเท่า GPT-3.5 ในภาษาไทย ด้วยแนวคิดที่ว่าปัจจุบันมี LLM ภาษาอังกฤษหลายตัวแล้ว แต่ LLM เฉพาะของภาษาไทยยังมีน้อยมาก และถูกจำกัดด้วยข้อมูลด้านภาษาไทยที่ยังมีไม่มากพอ
โดย LLM ฝีมือคนไทยอย่างไต้ฝุ่น ถูกพัฒนาขึ้นมา 2 เวอร์ชัน ได้แก่
สิ่งที่ทำให้คนหันมาสนใจใช้ LLM อย่าง Typhoon คงมาจากผลการทดลองในชุดข้อสอบภาษาไทยที่ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า Typhoon มีประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดลภาษาไทยแบบสาธารณะที่เปิดให้ใช้งานอยู่ในตอนนี้ทั้งหมด และมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ GPT-3.5 ในภาษาไทยอีกต่างหาก เรียกว่าเป็นหนึ่งใน large language model ตัวหนึ่งที่คนไทยไม่ควรมองข้าม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า LLM (large language model) และ data analytics นั้นได้กลายเป็นหัวหอกสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ก้าวล้ำหน้าคู่แข่งในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง หากคุณยังมองไม่เห็นภาพเราจะอธิบายให้เข้าใจเอง
มาถึงตอนนี้คุณคงเข้าใจแล้วว่า large language model มีคำความสำคัญอย่างไรต่ออนาคตของพวกเราทุกคน เพราะมันไม่ได้จำกัดวงอยู่แต่ผู้ใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่ภาคธุรกิจเองก็ยังนำ LLM มาประยุกต์ใช้กับกระบวนการทำงานในส่วนต่างๆ เพื่อช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้
ยิ่งเมื่อได้ทำ data analytics ที่จะวิเคราะห์ทุกข้อมูลที่ธุรกิจของคุณมีอยู่แล้ว สิ่งที่อาจมองข้ามและคิดว่าไม่ได้ส่งผลอะไรกับธุรกิจ นั่นเปรียบเหมือนกับการขุดลึกลงไปในคลังสมบัติที่รอคอยให้คุณนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน รู้ว่าสิ่งใดคือปัญหา และเรื่องไหนเป็นโอกาสที่ธุรกิจจะสามารถสร้างสรรค์สินค้าและบริการ ตลอดจนแผนการตลาดและโปรโมชันที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม
เพื่อทำให้ธุรกิจของประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล Seven Peaks เรายินดีที่จะช่วยคุณวางกลยุทธ์ หรือวิเคราะห์ข้อมูลและความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ด้วยทีมงานที่มากไปด้วยประสบการณ์ ตั้งแต่ทีม developer, ทีม designer, ทีมการตลาดดิจิทัล, และทีมอื่นๆ ซึ่งมีความเข้าใจในทุกขั้นตอนของการพัฒนาดิจิทัลโปรดักต์ และทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าเสมอ ปรึกษาเราตอนนี้