บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

Cross platform application คืออะไร ที่นี่มีคำตอบให้คุณ

Written by Seven Peaks | 7 พ.ย. 2023, 8:58:33

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา cross platform application หรือก็คือการพัฒนาแอปพลิเคชันข้ามแพลตฟอร์ม เป็นเทรนด์ที่โดดเด่นอย่างมากในอุตสาหกรรมแอปฯ ด้วยการสร้างแอปพลิเคชันที่รองรับการใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android และเว็บไซต์ ซึ่งการที่ developer สามารถสร้างแอปฯ สำหรับหลายแพลตฟอร์มด้วยการใช้โค้ดชุดเดียว จึงทำให้การพัฒนา cross platform application ได้เปรียบในเรื่องของงบลงทุนและเวลาที่ใช้พัฒนาอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่การพัฒนาแอปพลิเคชันในปัจจุบันมีอยู่ 2 รูปแบบหลักๆ คือ Native กับ cross platform โดยมี Google และ Facebook เป็นสองหัวเรือใหญ่ที่คอยออกเครื่องมือพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆ สู่ตลาด และยังรวมถึงบริษัทด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันชั้นนำอื่นๆ อย่าง JetBrains และอีกมากมาย 

เราจึงอยากที่จะพาผู้อ่านไปทำความเข้าใจว่า cross platform application คืออะไร และแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสีย รวมถึงทำไมถึงเป็นเทรนด์ที่ developer ทุกคนควรที่จะสนใจและศึกษาว่าสามารถช่วยให้การทำโปรเจกต์พัฒนา digital product นั้นรวดเร็วและคุ้มกับต้นทุนได้อย่างไร

 

Cross platform application คืออะไร ทำความเข้าใจฉบับรวบรัดที่นี่

Cross platform application คือแอปพลิเคชัน, โปรแกรม, หรือซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานบนระบบปฏิบัติการหรือแพลตฟอร์มหลายระบบ เช่น ระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน (เช่น Windows, macOS, Linux) หรือมือถือต่างๆ (เช่น iOS, Android) โดยแอปฯ ชนิดนี้ได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้งานบนอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมหรือสร้างแอปฯ สำหรับแต่ละแพลตฟอร์มขึ้นมาต่างหากแต่อย่างใด

โดย developer มักจะใช้เทคโนโลยี เช่น เฟรมเวิร์กแบบ cross-platform หรือเครื่องมือเพื่อสร้างแอปพลิเคชันดังกล่าว ซึ่งช่วยให้พวกเขาเขียนโค้ดเพียงครั้งเดียวและสามารถปรับใช้ได้กับหลายแพลตฟอร์ม วิธีการนี้ช่วยให้ผู้ที่จะทำ digital product ประหยัดเวลาและทรัพยากรได้มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการพัฒนาแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม ทำให้แอปพลิเคชันข้ามแพลตฟอร์มเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าสำหรับการเข้าถึงผู้ใช้ในวงกว้าง

 

เครื่องมือเขียนและสร้างแอปฯ แบบ cross platform application มีกี่แบบ?

ปัจจุบันนั้นมีเครื่องมือและเฟรมเวิร์กมากมายสำหรับการเขียนและสร้าง cross platform application เครื่องมือเหล่านี้แตกต่างกันไปในแง่ของภาษาการเขียนโปรแกรมที่รองรับ โดยเหล่านี้เป็นเครื่องมือและเฟรมเวิร์กการพัฒนาข้ามแบบ cross platform ที่ได้รับความนิยมจากบรรดา developer ดังนี้

1. React Native

React Native เป็นเฟรมเวิร์ก JavaScript แบบ open source ยอดนิยมที่ใช้เพื่อสร้างแอปพลิเคชันมือถือแบบ cross-platform สำหรับ iOS และ Android และแน่นอนว่าเฟรมเวิร์กนี้ถูกพัฒนาโดย Facebook และเปิดตัวสู่วงการพัฒนาแอปฯ เมื่อปี 2015 เป็นครั้งแรก

2. Flutter

ในปี 2015 Google ได้เปิดตัว Flutter ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ open source ที่ใช้สร้าง UI บนแอปพลิเคชันมือถือขึ้นมา นั่นทำให้ developer สามารถสร้าง cross-platform application ด้วยโค้ดเพียงชุดเดียว และยังนำไปปรับใช้กับแอปฯ มือถือ, เว็บไซต์, และซอฟต์แวร์บนเดสก์ท็อปได้ในครั้งเดียวอีกด้วย และจุดที่ทำให้ Flutter ได้รับความนิยมอย่างมากก็มาจากความสามารถในการทำให้แอปฯ ออกมาสวยงามและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานได้ดีเหมือนกันในทุกแพลตฟอร์ม

3. .NET MAUI

.NET Multi-platform App UI (MAUI) อ่านว่า “เมาอิ” เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการสร้าง cross platform application แบบ native โดยใช้ .NET ecosystem อันเป็นวิวัฒนาการของเฟรมเวิร์ก Xamarin.Forms และเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม .NET 6 ที่ใหญ่กว่า โดย MAUI ช่วยให้ developer ลงมือสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถทำงานได้บนหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Windows, Android, iOS, macOS และอีกมากมาย ด้วยการใช้โค้ดเพียงชุดเดียวเท่านั้น

4. Kotlin Multiplatform

Kotlin Multiplatform หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Kotlin Multiplatform Mobile (KMM) เป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย JetBrains ผู้สร้างภาษาการเขียนโปรแกรม Kotlin ที่ช่วยให้ developer สามารถเขียนโค้ดที่ใช้ร่วมกันได้กับหลายแพลตฟอร์ม เช่น Android, iOS, เว็บไซต์ และแม้แต่แอปพลิเคชันฝั่งเซิร์ฟเวอร์ โดยการใช้ Kotlin