Leif มีประสบการณ์ในการทำงานหลากหลายตำแหน่งในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มาอย่างยาวนาน
หลังจากที่ได้ทำงานเป็นทั้ง consultant, software engineer, software architect, team lead, และ manager รวมๆ แล้ว ทุกอย่างที่ผ่านมาทำให้เขามีประสบการณ์การทำงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์มากกว่า 14 ปี
Leif เป็นคนที่มีความหลงใหลเกี่ยวกับการมีกระบวนการพัฒนาที่ดีและทรงประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งเขามองหาหนทางในการพัฒนากระบวนการเหล่านี้อยู่เสมอ
Leif Åsmund Mørk มาร่วมงานกับ Seven Peaks Software ในตำแหน่ง Head of Delivery เมื่อปี พ.ศ. 2561 โดยมีหน้าที่บริหารจัดการและดูแล delivery team พร้อมทั้งโฟกัสกับโปรเจกต์ลูกค้าจากนอร์เวย์เป็นพิเศษ
ถัดมาในปี พ.ศ. 2562 เขาเลื่อนขั้นมาทำตำแหน่ง Head of Software Engineering โดยมีหน้าที่ดูแลทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งหมดและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทได้บรรลุเป้าหมายที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้าตั้งเอาไว้ พร้อมด้วยคุณภาพเต็มเปี่ยมในแบบที่ Seven Peaks Software ได้รับการยอมรับ
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า Leif ได้เลื่อนขั้นจาก Head of Software Engineering มาเป็น VP of Engineering คนใหม่ของเรา Leif ทำงานกับเรามากว่าสามปีแล้ว และกลายมาเป็นสมาชิกคนสำคัญจนไม่อาจประเมินค่าได้ของทีมงานเรา
Leif ได้แสดงให้เราเห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาว่าเขามีทักษะอันสร้างสรรค์ที่เหมาะสมกับการก้าวสู่บทบาทการบริหารงานครั้งใหม่ เขาถือเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการทางวิศวกรรม การบริหารจัดการ และการส่งมอบทุกโปรเจกต์ด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของเรา ทั้งหมดนั้นได้พิสูจน์ถึงความทุ่มเทของเขาทั้งในฐานะผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดการ
ตอนที่ Leif ทำงานร่วมกับทีม เขาจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการนำแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมมาเสริมความแข็งแกร่งในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัท เขาจะทำหน้าที่ใหม่นี้และผลักดันให้บริษัทก้าวสู่ความสำเร็จใหม่ๆ
เราขออวยพรให้ Leif โชคดีกับตำแหน่งงานใหม่ของเขา
พื้นฐานการศึกษาของ Leif คือการเรียนในสาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ อาชีพแรกของเขาก็คือการทำงานเป็น software developer ให้กับบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับน้ำมัน
“ผมทำงานให้ที่นั่น 2 ปี หลักๆ คือทำหน้าที่หลายอย่างเกี่ยวกับ backend developer และ Scrum นิดหน่อย รวมถึงงานด้านเทคนิคอื่นๆ หลังจากนั้นก็ไปทำงานที่ Capgemini ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทำงานที่นั่นเป็นเวลา 6 ปี
ตอนที่อยู่ที่นั่น ผมช่วยพวกเขาสร้างผลิตภัณฑ์แบบ self-service ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แบบ self-service ชิ้นแรกขององค์กรที่นำเสนอโซลูชันประเภทนี้ขึ้นมา จากนั้นก็สร้างผลิตภัณฑ์แบบ self-service ขึ้นมาสำหรับตลาดที่มีความต้องการเฉพาะ” – Leif อธิบาย
หลังจากที่เริ่มด้วยการพัฒนาบริการออนไลน์สำหรับ web และ mobile banking เขาก็กลายมาเป็น tech lead อย่างรวดเร็ว ทีมงานก็เพิ่มขึ้นมากจนกลายเป็นแผนกใหญ่ทั้งแผนก
จากนั้นในช่วงวันหยุด Leif ก็ได้ติดต่อกับ Seven Peaks Software อย่างเป็นทางการ
“นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมติดต่อมาอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้ผมเคยแค่โพสต์รูปทะเล หรืออาจจะเป็นรูปกรุงเทพฯ ซึ่ง Runar บอกว่าทาง Seven Peaks Software มีตำแหน่งว่าง เลยถามว่าผมสนใจหรือเปล่า”
Leif จึงบินมาที่กรุงเทพฯ ด้วยตนเองเป็นครั้งแรก และเดินทางไปยังออฟฟิศแรกของ Seven Peaks Software ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ
Leif ได้พบกับ Roy Ivar Moe CTO ของ Seven Peaks ร่วมด้วย Jostein CEO ของ Seven Peaks และทั้งสามคนก็ได้พูดคุยกัน
แล้ว Leif ก็ได้คุยกับ Roy และ Jostein อีกหลายครั้ง หลังจากที่เขามาถึงกรุงเทพฯ
“ผมเจอกับ Roy เป็นครั้งแรก แล้วก็ได้พูดคุยกับ Jostein ที่ออฟฟิศเยอะมาก เพราะผมเป็นคนที่ชอบลงรายละเอียด ซึ่งการที่ผมต้องย้ายจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผมต้องคุยเยอะหน่อย” – Leif เล่า
“มีสิ่งหนึ่งที่เป็นการผจญภัยสำหรับผมอย่างแน่นอนก็คือการย้ายไปอยู่ในต่างประเทศที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกันสุดขั้ว ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มากเลยทีเดียว” – Leif กล่าว
Leif กล่าวว่า Seven Peaks Software นั้นตั้งเป้าทั้งในเรื่องของ ROI และการรู้จักเป็นผู้ให้ รวมถึงความทะเยอทะยาน การวางแผนอย่างชัดเจนว่าองค์กรจะมุ่งหน้าไปยังทิศทางใด และจะเติบโตขึ้นได้อย่างไร
เขาจึงเข้าใจได้ชัดเจนว่าทีมงานที่บริหาร Seven Peaks Software นั้นมีความคิดสร้างสรรค์ในการลองสิ่งใหม่ๆ สำหรับธุรกิจนี้
อากาศร้อนและความหลากหลายของเพื่อนร่วมงานคือความแตกต่างหลักๆ ที่ Leif ต้องเผชิญเมื่อมาทำงานกับ Seven Peaks Software เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่ Seven Peaks มีพนักงานนับร้อยคนที่มาจาก 20 กว่าเชื้อชาติ
“ผมคิดว่ามันไม่ถึงขนาดเป็น culture shock หรอก แต่แน่นอนว่ามันเป็นก้าวสำคัญของผมเลยทีเดียว สำหรับคนอื่นมันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถ้าคุณเคารพคนอื่น คุณก็ควรเรียนรู้จากการสื่อสารกับพวกเขาให้มากขึ้น” – Leif กล่าว
Leif บอกว่า ขั้นแรกคือเขาต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยให้มากขึ้น
เขาจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องวัฒนธรรม, ค่าครองชีพ, ระบบสาธารณสุข, ระบบภาษี, สิ่งเหล่านี้สำคัญมากสำหรับเขาเมื่อต้องตัดสินใจที่จะย้ายมาทำงานที่ประเทศไทย
สิ่งที่ยอดเยี่ยมในการมาทำงานในประเทศไทยก็คือ ถ้าคุณมีเวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็สามารถเดินทางไปเที่ยวทะเลได้ หรือถ้าอยากไปเที่ยวป่าหรือภูเขาในภาคเหนือก็ทำได้เหมือนกัน
“กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่หลายคนรู้กันดีว่าค่าครองชีพไม่สูงมาก น่าอยู่ และกำลังจะกลายเป็น tech hub ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย” – Leif กล่าว
ประเทศไทยกำลังจะปรับเปลี่ยนเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล บรรดา tech startup หลายแห่ง รวมถึงนักลงทุนต่างก็อยากเข้ามาลงทุนในไทยในฐานะที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังได้รับการอำนวยความสะดวกจากรัฐบาลไทยอีกด้วย
Seven Peaks Software ได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำหลายแห่งทั้งในไทยและต่างประเทศ เราช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมของพวกเขาได้
“ผมคิดว่ามันคงขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไรกันแน่ ในองค์กรขนาดใหญ่ พวกเขามีการวางโครงสร้างของกระบวนการทุกอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขามีความพร้อมในทุกด้าน คุณก็แค่ทำงานของคุณไป หรือไม่ก็อาจจะต้องการงานที่มีความเฉพาะทางมากขึ้น
สำหรับที่นี่ คนที่เรากำลังรับเข้ามาสามารถสร้างผลงานดีๆ ได้ หรือรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของงาน ซึ่งทำให้ Seven Peaks Software กลายเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว” – Leif กล่าว
ซึ่งแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนี้เกิดขึ้นจากการทำงานในบริษัทที่กำลังเติบโต และเราก็ยินดีต้อนรับคนที่อยากเรียนรู้ เพราะเรามีเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนที่มาจากทั่วโลก
ไม่ว่าใครจะมาจากนอร์เวย์ หรือประเทศไทย หรือที่ไหนก็ตาม คุณก็สามารถปรึกษาหารือในการหาวิธีแก้ปัญหากับผู้คนที่มาจากทั่วโลกได้ จากนั้นก็เริ่มแก้ไขปัญหาด้วยผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมด้วยกัน
ที่ Seven Peaks Software ทุกคนเท่าเทียมกันและมีโครงสร้างขององค์กรแบบราบ เราให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณทำมากกว่าสิ่งที่คุณเป็น
การทำงานที่ Seven Peaks Software นั้นมีข้อดีหลายอย่าง สิ่งที่คุณควรรู้คือมีบริษัทมากมายที่ตั้งอยู่ในเอเชียเหมือนกับเรา พวกเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบเดียวกับในยุโรปหรืออเมริกา ซึ่งเน้นความเท่าเทียมและทุกคนสามารถนำเสนอความคิดของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ร่วมกันได้
“อยากลดน้ำหนักเหรอ? ก็แค่กินให้น้อยลงแล้วก็ออกกำลังกาย หรือไม่ก็ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ไง” – Leif แนะนำ
Leif สามารถลดน้ำหนักไปได้เยอะหลังจากมาทำงานที่กรุงเทพฯ จนเพื่อนร่วมงานของเขาที่ Seven Peaks Software ต่างก็ตกใจกันหมด
“ประเทศไทยมีผลไม้อร่อยๆ สดๆ รวมถึงผักนานาชนิดให้กินมากมาย นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว อาหารไทยยังมีรสชาติดี หลากหลาย จนคุณไม่จำเป็นต้องกินแคลอรีอะไรเพิ่มเติมเลย”
บางครั้งผมก็ได้กินอาหารในร้านแบบเดียวกับที่ผมเห็นวางขายอยู่ตามทางระหว่างกลับบ้าน แต่ผมก็พยายามระวังเรื่องอาหารการกินและควบคุมสิ่งที่กินให้ดีๆ” – Leif อธิบาย
อาหารไทยเน้นความสมดุลและหลากหลาย มักจะเป็นอาหารเบาๆ ที่เน้นทั้งกลิ่นและรสชาติพอๆ กัน พอมีตัวเลือกอาหารที่อร่อยและดีต่อสุขภาพมากมายอยู่ทั่วทุกมุมในกรุงเทพฯ การจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
สิ่งที่ Leif ชอบมากเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ก็คือแม้แต่คอนโดที่เล็กที่สุดก็ยังมีสระว่ายน้ำและยิมพร้อมให้บริการ เขาบอกว่าที่คอนโดของเขามีแม้กระทั่งคอร์ทเทนนิส และมีทางให้เดินหรือจ็อกกิงรอบๆ ด้วย เรียกได้ว่าสามารถทำได้ทุกอย่างที่คุณต้องการเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปกับรถติด แค่เดินไปเข้ายิมเท่านั้น
การย้ายจากเมือง Bergen ในประเทศนอร์เวย์มาอยู่ที่เมืองอันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างกรุงเทพฯ ทำให้ Leif ลดน้ำหนักไปได้ถึง 30 กิโลกรัมภายในเวลา 3 ปีที่อาศัยและทำงานอยู่ที่นี่ นอกจากนั้น เขายังปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมไทยได้ดีและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ สมกับที่อยู่ในสยามเมืองยิ้ม
การออกกำลังกายและกินอาหารเพื่อสุขภาพช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดีพอๆ กับสุขภาพกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่คุณทำงานมาตลอดทั้งวัน คุณก็ต้องหยุดพักและผ่อนคลายด้วย
หากคนสนใจอยากได้รับประสบการณ์ดีๆ แบบเดียวกับ Leif ก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานที่เปิดรับสมัครของเราได้เลย