บทความและข่าวสาร | Seven Peaks Insights

เข้าใจเรื่อง digital landscape เพื่อที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโต

เขียนโดย Seven Peaks - 17 เม.ย. 2023, 4:34:00

ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการ digital transformation, การทำงานจากระยะไกล, และแนวโน้มด้านเทคโนโลยีในเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

การสื่อสาร, การบริหารโปรเจกต์, วิธีการทำงานแบบ Agile

 

 

ข้อมูลเชิงลึกจากคุณ Jostein Aksnes ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Seven Peaks เผยว่า ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียยังคงมีการทำ digital transformation ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในยุคหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

ในโลกธุรกิจที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เทรนด์ต่างๆ อาจเข้ามาและจากไป แต่ปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรยังคงเหมือนเดิม นับตั้งแต่ปี 2563 ที่โควิด-19 ได้แพร่ระบาดทั่วโลก นั่นเป็นตัวการสำคัญที่เร่งให้บรรดาธุรกิจในภูมิภาคเอเชียมีการทำ digital transformation เพิ่มขึ้นอย่างมาก เบื้องต้นหลายบริษัทชะลอรอดูสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร แต่หลังจากที่ผลกระทบระยะยาวของโควิด-19 ได้ชัดเจนขึ้น ธุรกิจต่างๆ ก็เริ่มลงทุนจำนวนมากเพื่อเปลี่ยนตัวเองสู่ความเป็นดิจิทัล

Digital product และการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนในช่วงเวลาที่ท้าทาย

 

นี่คือการเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อน บริษัทต่างๆ ได้ตระหนักถึงพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของ digital product ที่ไม่เพียงแค่ทำให้อยู่รอดเท่านั้นแต่ยังต้องสามารถเติบโตได้อีกด้วย เทรนด์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากกับบรรดาร้านอาหารและธุรกิจค้าปลีก

ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเหล่านี้ การปรับใช้ต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดกลายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง การใช้ประโยชน์จากการทำ digital transformation เพื่อปรับปรุงกระบวนการภายในและประสิทธิภาพได้กลายเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาอันมีค่าและเพิ่มอัตรากำไรให้สูงขึ้น สิ่งนี้ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคตหรือภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากธุรกิจต่างๆ พยายามที่จะประสบความสำเร็จในภูมิทัศน์ที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

รองรับการทำงานแบบไฮบริดและจากระยะไกล


จากการระบาดของโควิด-19 ได้กระตุ้นให้พนักงานอยากที่จะได้ทางเลือกในการทำงานแบบไฮบริดและจากระยะไกลเพิ่มมากขึ้น บรรดาธุรกิจต่างๆ จึงจำเป็นต้องหันมาใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันทางออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มการประชุมที่ราบรื่น และช่องทางการสื่อสารที่ช่วยให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องสามารถพูดคุยกันได้เสมือนนั่งอยู่ที่ออฟฟิศด้วยกัน

จากการสำรวจทั่วโลกพบว่าผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 97 เปอร์เซ็นต์รับทราบว่าการระบาดของโควิด-19 ช่วยเร่งให้เกิดการ digital transformation ภายในองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งสัญญาณถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีในภูมิทัศน์ทางธุรกิจในปัจจุบัน เพราะการอยู่รอดขึ้นของธุรกิจอยู่กับความสามารถในการปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อควบคุมและจัดการทุกอย่างได้สำเร็จ เทคโนโลยีก็จะมีบทบาทในการปรับปรุงกระบวนการ เพิ่มผลผลิต และขับเคลื่อนให้ธุรกิจมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น

แก้ปัญหาช่องว่างด้านทักษะดิจิทัลในธุรกิจ SME


สำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) การตัดสินใจอย่างรอบคอบและการกำหนดทิศทางที่ชัดเจนก่อนที่จะลงทุนในทีมที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาโซลูชันดิจิทัลที่ปรับให้เข้ากับธุรกิจของพวกเขา แทนที่จะมุ่งเน้นไปยังผลลัพธ์ที่ต้องการเพียงอย่างเดียว แต่การเข้าใจความต้องการและข้อกำหนดที่แท้จริงก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน นอกจากนี้ องค์กรยังต้องเรียนรู้ที่จะดึงคุณค่าสูงสุดจากการเป็นพาร์ตเนอร์กับผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีอีกด้วย

การสำรวจ SME ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่จัดทำขึ้นในปี 2563 เน้นย้ำว่าความท้าทายหลักๆ ในการ digital transformation ก็คือการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถทางดิจิทัลภายในบริษัท ตามด้วยการขาดเทคโนโลยีที่จำเป็นและขาดความมุ่งมั่นจากฝ่ายบริหารในการเดินหน้าอย่างจริงจัง โดยการจัดการกับอุปสรรคเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ SME มากๆ หากทำได้ก็จะเปรียบเหมือนกับมีใบเบิกทางที่นำไปสู่เส้นทางการ digital transformation ที่ประสบความสำเร็จ

ทีมเทคโนโลยี in-house vs พาร์ตเนอร์จากภายนอก


มีสองทางเลือกเมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี ทางแรกคือการสร้างทีมเทคโนโลยี in-house ของคุณเอง หรือทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ภายนอก โดยการสร้างทีมเทคโนโลยี in-house จะช่วยเปิดโอกาสในการรับประกันคุณภาพ, การบำรุงรักษา และการสนับสนุน อย่างไรก็ตาม การสร้าง digital product คุณภาพสูงนั้นมีความซับซ้อน ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้นำที่แข็งแกร่ง ทีมจัดการซอฟต์แวร์ที่เชี่ยวชาญ รวมถึงการลงทุนทางการเงินและเวลาจำนวนมาก ดังนั้น การว่าจ้างบริษัทที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีชั้นนำอาจจะไม่ใช่เรื่องที่องค์กรทั่วไปที่ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจะรับมือได้

อีกทางหนึ่งก็คือ องค์กรสามารถทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ภายนอกเพื่อแก้ปัญหาและจัดการกับความท้าทายในการทำ digital transformation และสร้าง digital product โดยเจ้าของ product ภายในองค์กรนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเชื่อมช่องว่างระหว่างธุรกิจและทีมเทคโนโลยี เพื่อมุ่งเน้นไปที่งานที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว

การนำเทรนด์เทคโนโลยีอย่างมีเป้าหมาย


Seven Peaks ยังคงมองหาความก้าวหน้าและเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เราได้ใช้ความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่อิงตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเราจะเปิดรับและลองใช้เครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถจัดการกับความท้าทายเฉพาะทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เราก็ให้ความสำคัญกับโซลูชันที่ใช้งานและจัดการกับปัญหาได้จริง โดยวิธีการนี้ได้ขยายไปสู่การอภิปรายถึงเทรนด์ปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับ สกุลเงินดิจิทัล, บล็อกเชน, คลาวด์คอมพิวติง, และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

การขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติประจำเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) เพิ่งเผยแพร่รายงานการ digital transformation ของเอเชียแปซิฟิก โดยรายงานเน้นย้ำถึงความสำคัญของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้กำหนดนโยบายในการตรวจสอบการทำ digital transformation ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ภายในรายงานยังพบว่าการลงทุนของอุตสาหกรรมมือถือทั้งในด้านบริการ, โครงสร้างพื้นฐาน, และนวัตกรรมอื่นๆ ในเอเชียและแปซิฟิกมีมูลค่าถึง 400 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สิ่งนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการปฏิวัติดิจิทัล และส่งผลให้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตสำหรับมือถือครอบคลุมถึง 94 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในภูมิภาคนี้

ในปี 2559 Google, Temasek และ Bain & Company รายงานว่าการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเดิมๆ ไปสู่ความเป็นดิจิทัลช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไร รายงานนี้ทำการศึกษาครอบคลุมประเทศอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไทย, และเวียดนาม โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคนี้จะมีมูลค่าถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งภูมิภาคนี้สามารถบรรลุตัวเลขที่น่าทึ่งได้เร็วกว่าที่คาดไว้ถึง 3 ปีเลยทีเดียว

การคาดการณ์


ตามที่เราคาดการณ์ไว้ ในปี 2567 เทรนด์ดิจิทัลซึ่งเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบันจะได้รับการพัฒนาต่อไป สิ่งเหล่านี้น่าจะรวมถึงคลาวด์คอมพิวติง, บล็อกเชน, 5G, และ AI โดยโซลูชันสำหรับการทำงานระยะไกล, การเสริมทีม, และการทำงานแบบไฮบริด ซึ่งได้กลายมาเป็นแนวทางการทำงานที่สำคัญในช่วงการแพร่ระบาดจะยังคงอยู่ในอันดับต้นๆ ของสิ่งที่องค์กรจำนวนมากจะยังคงปฏิบัติต่อไป ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในเอเชีย ผมคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยว, อีคอมเมิร์ซ, สื่อออนไลน์, อาหาร, การขนส่ง และบริการทางการเงินดิจิทัล (DFS) ที่อยู่ในภาคส่วนดิจิทัลนั้นจะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

สรุปทิ้งท้าย


โดยสรุปแล้ว ผมมุ่งมั่นที่จะช่วยเร่งให้ธุรกิจต่างๆ ทำการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ด้วยการติดตามเทรนด์ล่าสุด การลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสม และการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่ใช่ นั่นทำให้เราสามารถร่วมกันสำรวจความท้าทายและโอกาสของ digital landscape ในขณะที่ธุรกิจและเศรษฐกิจมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเปิดรับการ digital transformation จะมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโต ความยืดหยุ่น และความสำเร็จในระยะยาวของทุกธุรกิจ

คุณ Jostein Aksnes เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Seven Peaks Software