ด้วยยอดผู้ใช้กว่า 4.95 พันล้านคนในปี 2022 ทำให้อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันอยู่ที่ 62.5% ไม่มีโอกาสไหนจะดีไปกว่านี้ในการเริ่มธุรกิจออนไลน์อีกแล้ว นอกจากนั้น สมัยนี้ยังมีเครื่องมือทำการตลาด, การขาย, และการค้นคว้าข้อมูลให้ใช้มากมายที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
แต่ก็มีอยู่ปัญหาหนึ่ง คือ
ธุรกิจใหม่ถึง 90% จะล้มเหลว บริษัทสตาร์ตอัปที่มีเงินทุนหนุนหลังกว่า 75% จะไปไม่รอด มีบริษัทเพียงครึ่งหนึ่งของบริษัททั้งหมดที่สามารถดำเนินกิจการได้ถึงปีที่ 5 และมีบริษัทใหม่ๆ เพียงหยิบมือเท่านั้นที่สามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว
ท้ายที่สุดแล้ว การใช้ minimum viable product หรือ MVP ที่มีฟีเจอร์ในการแก้ไขปัญหาน้อยที่สุดหมายความว่ามันจะมีงานที่ต้องทำน้อยกว่า ใช้ทีมงานน้อยกว่า และจำนวนบรรทัดโค้ดน้อยกว่า ซึ่งช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ไม่ยาก
หากคุณศึกษาวิธีการออกแบบ UX จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการนำเทคนิคการพัฒนาแบบ Lean UX MVP ไปใช้งานจริงได้
จากที่ Techopedia ระบุไว้ ความหมายอย่างเป็นทางการของ MVP คือ
“เทคนิคการพัฒนาที่โปรดักต์หรือเว็บไซต์ใหม่นั้นได้รับการพัฒนาด้วยฟีเจอร์ที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้นำกระแสที่ต้องการใช้งานตั้งแต่เนิ่นๆ ฟีเจอร์ที่เสร็จสมบูรณ์นั้นจะได้รับการออกแบบและพัฒนาเมื่อพิจารณาจากฟีดแบ็กของผู้ใช้โปรดักต์ในช่วงแรกๆ แล้วเห็นว่าเหมาะสมเท่านั้น”
minimum viable product ช่วยให้การเริ่มกระบวนการเรียนรู้นั้นเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงทดสอบผู้ใช้และเปลี่ยนแปลงแก้ไขโปรดักต์ได้ตามต้องการ
ทำไมการเปิดตัวที่รวดเร็วถึงสำคัญ
มีแอปฯ บน Android และ iOS เป็นแสนๆ แอปฯ ที่เปิดตัวในแต่ละเดือนท่ามกลางตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปล่อย MVP ออกมาได้เร็วช่วยให้คุณสามารถเริ่มตั้งหลักให้กับโซลูชันและจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณได้ รวมทั้งยังช่วยให้คุณสามารถปรับขนาดองค์กรได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย
แทนที่จะรอเป็นปีๆ เพื่อสร้างโปรดักต์ขึ้นมา Lean UX MVP ช่วยให้คุณแสดงถึงคุณค่าที่สำคัญที่สุดของธุรกิจได้มากที่สุดในระยะเวลาที่สั้นลงอย่างเห็นได้ชัด
การเจาะกลุ่มผู้นำกระแสทำให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งช่วยพิสูจน์ให้เห็นถึง value proposition ของคุณได้เร็วขึ้น เนื่องจากเหล่าลูกค้าผู้นำกระแสเหล่านั้นมักจะให้ฟีดแบ็กดีๆ กลับมาเสมอ
ฟีดแบ็กที่ได้รับช่วยให้คุณสามารถสร้างโรดแม็ปในการพัฒนาโปรดักต์ที่ดีกว่าเดิมได้ ดังนั้น มันจึงช่วยให้คุณสามารถสร้างโซลูชันที่โฟกัสกับกลุ่มเป้าหมายแบบ 100% และตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้จริง
MVP นั้นออกแบบมาเพื่อทำการทดสอบขั้นแรกเริ่ม มีบริษัทหลายแห่งที่เชื่อแบบผิดๆ ว่าโปรดักต์ของพวกเขาจะเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดเพราะมันช่วยแก้ปัญหาสำคัญๆ ได้ ทำให้พวกเขาเริ่มด้วยการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยที่ไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์มาก่อนว่าจริงๆ แล้วตลาดต้องการหรือเปล่า
MVP ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถทดสอบความต้องการของตลาดที่มีต่อโปรดักต์ของพวกเขาได้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย
การพัฒนาโปรดักต์อาจใช้เวลานานและอาจต้องใช้ทีมงานจากหลากหลายแผนก ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี, นักออกแบบ UI/UX, ผู้จัดการ, และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทำให้ต้นทุนในการเปิดตัวโปรดักต์สูงขึ้น
เมื่อเราทำ Lean UX MVP คุณจำเป็นต้องทำแค่ฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานเท่านั้น เมื่อทำแบบนี้จะช่วยให้โปรดักต์ไม่ซับซ้อนมากเกินไปและไม่ต้องเขียนโค้ดอะไรที่ยุ่งยากมากนัก ดังนั้น การยึดแนวทางเน้น “ขั้นต่ำ” นี้คือแนวทางที่ดีที่สุด
เมื่อใช้แนวทางนี้ MVP จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการพัฒนาซอฟต์แวร์ลงได้มาก
“ทำน้อยแต่ได้มาก”
product manager และผู้บริหารส่วนใหญ่มักประเมินคุณค่าของการเปิดตัวโปรดักต์ขั้นต้นไว้สูงเกินไป ซึ่งมักเกิดจากความกลัวว่าจะสร้างอะไรขึ้นมาน้อยเกินไป เพราะพวกเขาต้องการความมั่นใจว่าโปรดักต์จะดึงดูดผู้ใช้ได้มากพอ และไม่อยากให้คู่แข่งทำได้เหนือกว่า
อย่างไรก็ตาม การพยายามสร้างอะไรไว้มากเกินไปก็ไม่ได้รับประกันว่าคุณจะมีโปรดักต์ที่ดีและเป็นที่ต้องการของตลาด มันก็แค่ทำให้โปรดักต์ล้มเหลวช้าลงมากกว่าที่จะสร้างการยอมรับและแข่งขันกับเจ้าอื่นๆ แม้ว่าจะดูขัดกับสัญชาตญาณ แต่การเริ่มด้วย Lean UX MVP จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้กับโปรดักต์ได้