ภาพถ่ายโดย Siv Kristin Sællmann, NRK
คุณ Rune Fensli ทำงานด้านเทคโนโลยีและการวิจัยด้านสุขภาพมาทั้งชีวิต นอกจากนั้นยังทำงานเป็นศาสตราจารย์ด้าน e-health หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศสุขภาพ ที่ The University of Agder (UiA) ประเทศนอร์เวย์ อีกด้วย นี่คือเรื่องราวของเขาและผลงานการคิดค้น ระบบติดตามสุขภาพด้วยเซนเซอร์ IoT ที่ช่วยชีวิตของตัวเขาเองเอาไว้ได้
ตลอดสามปีที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ Fensli ทำงานเกี่ยวกับโปรดักต์นี้เพียงอย่างเดียว โดยเขาเป็นผู้ก่อตั้งหลักและเป็น ‘มันสมอง’ ที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาเซนเซอร์หัวใจที่ไม่เหมือนใครเพื่อใช้ป้องกันอาการ stroke
เซนเซอร์หัวใจสามารถตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในระยะแรกได้ ดังนั้นจึงสามารถป้องกันอาการ stroke ได้
หน้าที่ส่วนหนึ่งของศาสตราจารย์ Fensli คือการทดสอบโปรดักต์นี้ จึงถือว่าเป็นเรื่องดีที่เขาได้ทดสอบเซนเซอร์นี้ด้วยตัวเองก่อนที่จะมีการนำไปใช้งานจริง
เซนเซอร์นี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ECG247 ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ติดไว้ตรงหน้าอกเหมือนผ้าพันแผล โดยข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจจะถูกส่งไปยังแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นคุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนทันที
แล้วมันก็แจ้งเตือนศาสตราจารย์ Fensli ทันที
หลังจากที่ศาสตราจารย์ Fensli ได้ทดสอบเซนเซอร์หัวใจเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา เขาก็พบว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
“ตอนแรกผมก็คิดว่า เยี่ยม! มันใช้งานได้ แต่หลังจากนั้นก็รู้ตัวว่ามันไม่ใช่เรื่องดีที่หัวใจของผมกำลังมีปัญหา” ศาสตราจารย์ Fensli กล่าว
หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขเส้นเลือดหัวใจที่อุดตัน
“ถ้าผมไม่เจออาการผิดปกตินี้ล่ะก็ มันน่าจะกลายเป็นโรคหัวใจที่รุนแรงกว่านี้ ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่สิ่งที่ผมคิดค้นขึ้นมากลายเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้” เขาเล่าต่อ
นายแพทย์ Slobodan Calic ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะแพทย์ที่โรงพยาบาล Sørlandet Hospital Arendal บอกว่าภาวะการเต้นผิดปกติของหัวใจของศาสตราจารย์ Fensli คือหนึ่งในตัวอย่างที่อาจกลายเป็นภาวะหัวใจหยุดเต้นและอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
“เขาตรวจพบภาวะการเต้นผิดปกติของหัวใจด้วยโปรดักต์ของตัวเอง ซึ่งมีโอกาสที่จะกลายเป็นโรคร้ายแรงและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้” นายแพทย์ Calic ผู้ทำการผ่าตัด ศาสตราจารย์ Fensli กล่าว
นายแพทย์ผู้มีประสบการณ์ระดับสูงท่านนี้เชื่อว่าเซนเซอร์หัวใจคือวิธีการที่ดีในการนำเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์มาใช้ช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
คุณ Tord Ytterdahl ผู้เป็น general manager ของบริษัท Appsens ได้พัฒนาเซนเซอร์หัวใจนี้ขึ้นมาร่วมกับ UiA และ Sørlandet Hospital Arendal ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า
“สิ่งที่ศาสตราจารย์ Fensli ได้พบเจอคือสิ่งที่น่าคิดนะ และเป็นตัวอย่างที่ดีว่าอาการ stroke และการเสียชีวิตหลายๆ ครั้งสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยเทคโนโลยีที่ดีกว่าเดิม”
เขายังบอกว่า ชาวนอร์เวย์กว่า 150,000 มีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วหรือภาวะการเต้นผิดปกติของหัวใจ ซึ่งภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของภาวะการเต้นผิดปกติของหัวใจ
“กว่า 50,000 คนที่มีภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วนั้นไม่รู้ตัวว่าตัวเองป่วยเพราะว่ามันไม่แสดงอาการ ซึ่งในตอนนี้ไม่มีโปรดักต์ไหนที่ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการตรวจสอบกลุ่มคนจำนวนมากที่มีอาการป่วยแบบนี้เลย” คุณ Ytterdahl กล่าว
เซนเซอร์หัวใจ ECG247 เปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่ง developer นั้นโฟกัสกับตลาดของแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปและศัลยแพทย์หัวใจเป็นหลัก แต่เซนเซอร์นี้จะพร้อมวางจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปเร็วๆ นี้ เพื่อช่วยคนที่จำเป็นต้องใช้มันได้มากขึ้น
อ่าน กรณีศึกษาเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ IoT นี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
Internet of Things ก็คือ “เครือข่ายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันทางอินเทอร์เน็ตที่สามารถเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้” โดยมักจะเรียกย่อว่า IoT ซึ่งเซนเซอร์ IoT สำหรับสุขภาพนั้นได้รับการคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นการพัฒนาที่สำคัญในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกสิ่งเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต
ที่มา: PLM Nordic
สรุปก็คือ เป้าหมายของเซนเซอร์ IoT สำหรับสุขภาพและ IoT โดยทั่วไปก็คือการมีอุปกรณ์ เช่น มือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป ไว้ใช้รายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำข้อมูลสำคัญไปใช้อย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับระบบที่ทำงานผ่านการป้อนข้อมูลจากมนุษย์แบบแมนวล
|
เกี่ยวกับ Rune Fensliคุณ Rune Fensli เป็นศาสตราจารย์ชาวนอร์เวย์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน e-health ซึ่งทำงานอยู่ที่ University of Agder (UiA) และเป็นผู้คิดค้นอุปกรณ์ ECG เพื่อช่วยตรวจจับภาวะหัวใจหยุดเต้น เป้าหมายของเขาคือการช่วยชีวิตผู้คนทั่วโลกให้ได้มากขึ้นด้วยนวัตกรรมที่เขาคิดค้นขึ้นมานี้ |