ในฐานะที่เป็น lead UX และ product manager Craig จึงมีประสบการณ์ในการทำงานกับสตาร์ตอัป บริษัทขนาดเล็ก กลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่มามากมาย เช่น RHB, IRPC, และ BSkyB รวมถึงร่วมงานในบริษัทที่ไม่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์อีกหลายประเทศทั่วโลก
เมื่อเร็วๆ นี้ Craig ได้รับหน้าที่อันแสนท้าทายมาเป็น product manager ควบกับตำแหน่ง lead UX ที่เขาทำอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาได้ช่วยออกแบบงานให้กับลูกค้าและทำให้มันกลายเป็นจริงขึ้นมา โดยให้คำแนะนำแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม รวมถึงให้การสนับสนุนที่จำเป็นต่อทีมงานไปพร้อมๆ กัน
“การเดินทางของผมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุล้วนๆ เลย”
Craig ผู้เป็น lead UX และ product manager ของเรา ทั้งยังได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก ได้ทำงานท่ามกลางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย เผยถึงเรื่องราวที่เขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
ในช่วงปีแรกๆ ที่ทำงาน Craig เริ่มจากการทำงานเป็น backend developer ที่โฟกัสกับการวิเคราะห์ข้อมูลและยังไม่รู้ว่าเส้นทางอาชีพของเขาควรเป็นอย่างไร เขาบอกกับเราว่า เขารู้สึกว่ายังไม่รู้จะไปไหนต่อ แตกต่างจากเพื่อนๆ ของเขาที่มีทิศทางและเป้าหมายอันชัดเจน
“พวกเขารู้ว่าควรจะไปอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร แต่ผมไม่รู้เลย ผมรู้แค่ว่าผมทำอะไรบางอย่างได้ดี และทำให้ผมอยากเรียนรู้เพิ่มเติม” – Craig อธิบาย
Craig มีหลายบทบาทหน้าที่ตั้งแต่ช่วงแรกๆ รวมถึงการเป็น frontend developer, designer ที่รับหน้าที่ออกแบบผลิตภัณฑ์, และแม้กระทั่งช่วยงานบริษัทต่างๆ ในการเป็น external consultant
ประสบการณ์การทำงานที่น่าตื่นเต้นผสมกับหลักการทำงานอันหลากหลายที่ได้รับมาทำให้ Craig ได้ท่องเที่ยวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และทักษะที่จำเป็นก่อนที่จะมาร่วมงานกับเราที่ Seven Peaks
ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ Seven Peaks นั้น Craig ได้ทำงานและท่องเที่ยวไปในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้เพิ่มพูนประสบการณ์อันโลดโผนและหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนใหม่
“พอได้มาที่ประเทศไทย ผมได้เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันหลายอย่าง และบางเหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงผมไปโดยสิ้นเชิง แม้ว่าผมจะกลับไปอยู่ที่บ้าน ก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไป การกลับมาไทยจึงเป็นสิ่งเดียวที่ผมรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว” – Craig เล่าต่อ
“พอได้กลับมาที่ไทยอีกครั้ง ผมก็ได้งานทำสองสามที่ แล้วก็รู้สึกว่าเลือกงานผิด เข้าใจหน้าที่ที่รับผิดชอบผิดไป เลยคิดว่าผมคงต้องถอยมาตั้งหลักก่อน แล้วประเมินสถานการณ์ของตัวเองใหม่อีกครั้ง”
ในระหว่างนั้น Seven Peaks ยังเป็นเพียงเอเจนซีเล็กๆ ที่กำลังขยายธุรกิจและรับคนเพิ่ม รวมถึงทีมนักออกแบบ และดูเหมือนว่าจะลงตัวพอดี อย่างที่ Craig อธิบายไว้ว่าวันแรกที่มาทำงานที่นี่นั้นไม่ใช่วันธรรมดาๆ เลย
Craig ยังไม่ทันได้เจอทีมงานของเขา ก็ต้องไปทำหน้าที่ contractor และถูกส่งไปทำงานในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ในฐานะ senior UI designer เสียก่อน
“ตอนนั้นผมโทรหา Jostein ในวันศุกร์แล้วบอกว่าผมเพิ่งออกมาจากบริษัทเก่า หลังจากนั้นไม่นานเขาก็บอกให้ผมไปเจอทุกคนที่สนามบินในเช้ามืดวันจันทร์ตอนตี 3 ซึ่งมันเป็นการเริ่มต้นที่แปลกมาก แต่ผมก็คิดว่า เอาสิ น่าสนุกดี”
ช่วง 6-8 เดือนแรก Craig เซ็นสัญญาชั่วคราวกับ Seven Peaks โดยที่เขาได้ทำงานในโปรเจกต์ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ซึ่งต้องทำงานแข่งกับเดดไลน์ที่กระชั้นชิด ทำตาม requirement ของลูกค้า และตรวจสอบให้แน่ใจว่างานมีคุณภาพสูงอยู่เสมอ จนชัดเจนว่าเขาจะกลายมาเป็นคนสำคัญของบริษัท แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
หนึ่งปีผ่านไป Craig ก็ได้เป็นผู้ช่วยให้กับ Andy ที่เป็น design manager เพื่อช่วยสร้างชื่อเสียงให้ Seven Peaks ในการเป็นเอเจนซีออกแบบที่เชื่อถือได้ ทำงานหนัก และทำงานเร็ว ซึ่งเขาก็เริ่มเปลี่ยนตำแหน่งที่ทำอยู่จาก designer มาเป็น product manager หลังจากได้ความรู้และประสบการณ์จากหลายๆ โปรเจกต์ที่ผ่านมา
“เมื่อเรามีลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็เริ่มคุมงานออกแบบมากขึ้น แต่ด้วยประสบการณ์ด้านเทคนิคที่ผมมี ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่ผมจะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการนั้นเหมือนกัน
ผมมักจะเริ่มด้วยการมองในด้านเทคนิคของสิ่งต่างๆ ซึ่งช่วยให้ผมและทีมงานสามารถดำเนินโปรเจกต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผมเริ่มเน้นการทำงานให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งเป็นไปในทางการบริหารจัดการผลิตภัณฑ์มากกว่า และมันก็กลายมาเป็นสิ่งที่ผมทำอยู่ในปัจจุบัน” – Craig เล่า
Craig บอกกับผู้จัดการและทีมงานในช่วงที่มีการปรับตำแหน่งว่าเขาอยากเพิ่มพูนทักษะของตัวเอง และเริ่มเรียนรู้บทบาทหน้าที่ใหม่อย่างกระตือรือร้น เพื่อแสดงถึงความกระหายที่จะเปลี่ยนแปลงของเขา กระบวนการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย และทำให้ Craig ต้องแบกรับหน้าที่เพิ่มขึ้น มีภาระมากขึ้น เรียนรู้มากขึ้น เพื่อที่เขาจะก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ในระดับนี้
“คุณต้องตั้งเป้าหมายต่อไปในเส้นทางอาชีพของตัวเอง สำหรับผมแล้วมันคือ ‘หลังจากงานออกแบบแล้วยังไงต่อ? เป็น lead ที่ยอดเยี่ยมใช่ไหม? เป็น PM เก่งๆ ใช่ไหม?’ แล้วก็พยายามไปให้ถึงจุดนั้น แต่หลักๆ แล้วมันคือความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากทีมงาน ผู้จัดการ และบริษัท เสียมากกว่า”
เราถามเขาว่า คุณเคยสงสัยไหมว่า project manager และ product manager/owner แตกต่างกันอย่างไร
“มันมีความแตกต่างกันอยู่ project management เป็นรูปแบบการทำงานที่เก่ากว่า มันเกี่ยวกับการบริหารจัดการทีมงาน ต้องลงมือทำเยอะๆ
แต่ product management (PM, PO) นั้นคือการถอยออกมา แล้วมองงานแบบเน้นวัตถุประสงค์, ทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมทั้งกับธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย, แล้วทำให้มั่นใจว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมายของธุรกิจและผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งเป็นแนวทางการคิดและทำงานที่แตกต่างกันมาก
การทำงานแบบ project-based นั้นเน้นเรื่องของ task ไม่ว่าจะเป็น task ในแต่ละวัน, สัปดาห์, หรือเดือน แล้วทำให้เสร็จทันเวลาที่ประเมินไว้
ส่วนการทำงานแบบ product-based นั้นเน้นเรื่องของวัตถุประสงค์, เป้าหมาย, การลงทุนกับผลลัพธ์ที่ได้, และการบรรลุเป้าหมายของผลิตภัณฑ์
การขยับไปทำงานในระดับของผลิตภัณฑ์ก็ดูสมเหตุสมผลดี และเป็นสิ่งที่ Seven Peaks Software กำลังทำอยู่ นั่นคือการสร้างทีมที่เน้นการทำงานแบบ product-based” – Craig อธิบาย
พัฒนาการ คือคำที่ Craig เน้นย้ำว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง การจะได้สิ่งที่คุณต้องการ และเป็นคนที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้นั้น เขาแนะนำว่าคุณต้องมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อตัวเองและเพื่อคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวคุณด้วย
“ถ้าผมอยู่ในตำแหน่งเดิม ผมจะไม่สามารถพัฒนาอะไรให้กับใครได้เลย ผมก็ทำได้แค่ดูแลงานเฉยๆ และแม้ว่ามันจะฟังดูดี แต่เราไม่ได้มีอะไรพัฒนาขึ้นมาเลย
สิ่งที่เราต้องทำก็คือ มองว่าเราอยู่ที่ไหน แล้วถามตัวเองว่า ควรทำอะไรต่อ ต้องไปอยู่ที่ไหน ต้องการจะเป็นอะไร
เวลาส่วนใหญ่ที่ผ่านมาในชีวิตของผมหมดไปกับการรู้สึกอึดอัดกับชีวิตการทำงาน รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนหลอกลวง เหมือนว่าคุณไม่ควรอยู่ที่นี่ คุณไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ นั่นเป็นเพราะว่าคุณกำลังทำสิ่งใหม่อยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทาย และนี่แหละเป็นสิ่งที่ทำให้คุณได้เรียนรู้มากที่สุด
“…นั่นเป็นเพราะว่าคุณกำลังทำสิ่งใหม่อยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทาย และนี่แหละเป็นสิ่งที่ทำให้คุณได้เรียนรู้มากที่สุด” – Craig
ที่ผ่านมา ผมไม่เคยอยากเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่ผมรู้สึกว่าสบายเกินไป มันก็คงเป็นความรู้สึกปกติมั้ง แต่มันแปลว่าผมหยุดพยายามและหยุดเรียนรู้
การได้เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คือสิ่งที่ผมแนะนำให้คุณทำต่อไปในเส้นทางการทำงานของคุณ” – Craig กล่าว
Craig ย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีอย่างต่อเนื่องและประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้เกิดการเติบโตและเรียนรู้ เนื่องจากคุณไม่ได้แค่เรียนรู้เพื่อตนเอง แต่คุณกำลังเรียนรู้เพื่อจะนำทางคนอื่น สอนพวกเขา ให้คำแนะนำแก่เพื่อนร่วมงาน และช่วยให้บริษัทเติบโตขึ้น ซึ่งมีความสำคัญพอๆ กัน
Craig บอกเราว่าหากจะให้สรุปสาระสำคัญจากประสบการณ์ของเขา แม้ว่าจะฟังดูธรรมดา แต่การหาเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองนั้นไม่มีคำว่าสายเกินไป คุณก็แค่พยายามต่อไป และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง แล้วเส้นทางนั้นจะชัดเจนขึ้นเอง
“มันเป็นหนึ่งในเรื่องที่คนทั่วไปเขาไม่สอนกัน
ถ้าหากคุณจำได้ สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาสอนให้เราเขียนเกี่ยวกับตัวเอง และเป้าหมายในชีวิต จากนั้นก็ส่งไปเป็นส่วนหนึ่งในใบสมัครงาน ซึ่งของผมมันว่างเปล่า ผมถามพวกเขาว่าผมจะรู้ได้อย่างไรว่าเส้นทางชีวิตผมคืออะไรถ้าผมยังไม่ได้เริ่ม แต่ไม่มีใครอธิบายเรื่องนี้ให้ผมได้
ตอนนี้ผมก็เข้าใจแล้วว่า จริงๆ แล้วถ้าคุณรู้ก็ดี แต่ถ้าไม่รู้ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ไม่ต้องกังวล เลือกสิ่งที่คุณหลงใหลและทำได้ดี แล้วเส้นทางก็ปรากฏขึ้นเอง… แล้วก็คว้ามันไว้ซะ!
ณ จุดหนึ่งในชีวิตจะมีคนมาถามคุณเกี่ยวกับชีวิตของคุณว่าคุณทำสิ่งที่ผ่านมาได้อย่างไร คุณรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วคุณก็จะบอกพวกเขาได้ว่า ไม่รู้หรอก คุณก็แค่ปล่อยมันไป แล้วเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะสามารถผ่านมันไปได้
– Craig เล่า
การตระหนักถึงชีวิตการทำงานของ Craig ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่มันช่วยหล่อหลอมให้เขากลายเป็นเขาในทุกวันนี้ด้วยการเรียนรู้ว่าชีวิตการทำงานนั้นยาก และจำเป็นต้องมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
Craig ให้ข้อสังเกตว่า เพื่อนของเขาหลายคนดร็อปเรียนในปีสุดท้าย บางคนไม่แน่ใจว่าควรเลือกเส้นทางไหน บางคนเข้าใจว่ามันไม่เหมาะกับพวกเขา และบางคนก็แค่รู้สึกว่าไม่ชอบสิ่งที่เรียนอยู่เท่าไร แต่ละคนก็มีสิ่งที่เหมาะกับตัวเองที่แตกต่างกันออกไป และมันก็ไม่เป็นไรหรอก/p>
“ผมกำลังเรียนรู้อยู่ แม้กระทั่งในตอนนี้ ว่าคุณต้องยอมรับว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าคุณไม่ชอบมัน คุณก็เปลี่ยนได้ ไม่มีใครคาดหวังว่าคุณต้องรู้ทุกอย่างและเป็นคนที่เพอร์เฟกต์ ยกเว้นตัวคุณเอง และนั่นคือศัตรูตัวฉกาจของคุณเลย” – Craig กล่าว
“…คุณต้องยอมรับว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าคุณไม่ชอบมัน คุณก็เปลี่ยนได้” – Craig
Craig ไม่เสียใจเลยสักนิดที่ได้ใช้เวลาเกินกว่าทศวรรษทำงานอยู่ในประเทศไทย ซึ่งครึ่งหนึ่งคือการทำงานที่ Seven Peaks พร้อมทั้งได้เรียนรู้และเติบโต ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา เขาได้คุมงาน UX ตั้งมาตรฐานในการทำงาน และคุมโปรเจกต์ที่เน้นผลิตภัณฑ์เป็นหัวใจสำคัญ
“จากมุมมองของการออกแบบ มันคือการทำให้แน่ใจว่า designer หน้าใหม่ที่เข้ามาร่วมทีมนั้นจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ และส่วนหนึ่งของทีมได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราผ่านการคิดและบริหารจัดการมาอย่างดี และเรากำลังช่วยให้พวกเขาได้เพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จำเป็นด้วย
อุตสาหกรรมนี้ (การพัฒนาซอฟต์แวร์และเทคโนโลยี) เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้นเรื่อยๆ และก้าวสู่การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าเป็นหลัก ดังนั้นการเป็นคนที่ยืดหยุ่นสูงจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ ผมเชื่อมั่นว่าในอุตสาหกรรมนี้เราควรมีความยืดหยุ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทิ้งคุณค่าในตัวเอง หรือทิ้งมาตรฐานของคุณไปนะ มันหมายความว่าคุณต้องปรับตัวและควบคุมมันให้ได้ ทำให้คุณกลายเป็นคนที่นำทีม และมีคนอยากก้าวตาม” – Craig อธิบาย
Craig อธิบายต่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสีย การเป็นคนยืดหยุ่นเกินไปอาจกระทบต่อชีวิตส่วนตัวได้ แต่การเป็นคนที่แข็งเกินไปก็อาจกระทบชีวิตการทำงานได้เช่นกัน คุณต้องเรียนรู้วิธีสร้างสมดุลให้กับตัวเอง
Craig กล่าวว่า ความยืดหยุ่นของ Seven Peaks ทำให้เขาและทีมงานของเขาเติบโตขึ้น, ปรับตัว, และเพิ่มพูนทักษะของตัวเอง, และกล้ารับความท้าทายใหม่ๆ ที่บริษัทหรือเอเจนซีเจ้าอื่นๆ ไม่สามารถทำได้
สนใจอยากเดินตามเส้นทางเดียวกับ Craig เพื่อย้ายมาอยู่ไทยและทำงานกับเราไหม? เข้าไปที่ หน้ารับสมัครงานเพื่อดูว่ามีตำแหน่งไหนที่เปิดรับสมัครอยู่ได้เลย